กรุ๊ปลีส เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2018 การแก้ไขงบการเงินปี 2017 และกำไรโตติดต่อกันสามไตรมาส

15 Aug 2018

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เผยรายได้ไตรมาสที่ 2/2561 อยู่ที่ 729.01 ล้านบาท มีกำไร 125.98 ล้านบาท พร้อมกับย้ำกำไรยังเติบโตต่อเนื่องติดต่อกันสามไตรมาส หลังจากการตั้งสำรองในไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ในขณะที่กำไรแต่ละไตรมาสยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

นาย อาลัน ฌอง ปาสคาล ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมีกำไรสุทธิ 125.98 ล้านบาท ในไตรมาสที่สองของปี 2561 ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรได้ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สาม ทั้งนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น 25.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับรายได้ของไตรมาสแรก ในขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการบริการและการบริหารลดลง 14.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ซึ่งส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 (จากเดิม 106.53 ล้านบาทเป็น 125.98 ล้านบาท) และกำไรจากการปฎิบัติงานโตร้อยละ 27 จากไตรมาสที่แล้ว (จากเดิม 106.41 ล้านบาท เป็น 134.69 ล้านบาท)

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทได้แก้ไขงบการเงินปี 2017 (ปี 2560) ตามหนังสือของ ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากการตั้งสำรองในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 ส่งผลให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2017 และรายได้สุทธิดีขึ้นจากเดิม บริษัทพร้อมให้ความร่วมมือกับ ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความกระจ่าง โปร่งใส และเพื่อคงไว้เพื่อธรรมภิบาลที่ดี”

“บริษัทได้เคยให้คำมั่นไว้ว่า ในปี 2018 บริษัทจะพยายามเพิ่มผลกำไรและเสริมความแข็งแกร่งในด้านการดำเนินงานของบริษัท เพื่อความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ผ่านมานั้น บริษัทได้ดำเนินการไปตามทิศทางที่ตั้งใจไว้ และผลกำไรของบริษัทก็เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าขนาดของธุรกิจจะไม่ได้เติบโตมากขึ้นก็ตาม บริษัทขอเรียนว่า บริษัทจะพยายามดำเนินการให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง โดยบริษัทได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพของกลุ่มลูกค้าและพัฒนาขั้นตอนการดำเนินงานของบริษัท เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อต่อยอดความสำเร็จในปีต่อๆไป จะเห็นได้จากในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรจากการปฎิบัติงานเพิ่มขึ้นจากเดิม 106.41 ล้านบาท เป็น 134.69 ล้านบาท หรือโตขึ้นร้อยละ 27 ในไตรมาสเดียว”

“ธุรกิจในประเทศต่างๆยังคงสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่สองนี้ โดยเฉพาะธุรกิจในพม่าและไทยซึ่งสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทเป็นลำดับต้นๆ บริษัทวางแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ในพม่าเนื่องจาก NPL ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ในประเทศอื่นๆนั้นบริษัทจะเน้นสร้างฐานลูกค้าที่มีคุณภาพให้เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากปัจจัยด้านการแข่งขันและหนี้ครัวเรือนที่สูงเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ธุรกิจในลาวนั้น บริษัทคาดว่าจะคงระดับการเติบโตไว้ ส่วนของธุรกิจที่กัมพูชานั้น บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจแบบ conservative เนื่องจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจมหภาค ในขณะที่บริษัทคาดหวังการเติบโตเล็กน้อยสำหรับธุรกิจในประเทศไทย เนื่องจากมีการพัฒนาคุณภาพของฐานลูกค้า แต่บริษัทจะเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และที่อินโดนีเซียนั้นมีการเติบโตของธุรกิจที่คล้ายคลึงกับการให้สินเชื่อรายย่อยที่พม่า อย่างไรก็ดี ในการขยายธุรกิจในอนาคตนี้ บริษัทจะดำเนินการอย่างรอบคอบและรอคอยจังหวะเวลาที่เหมาะสมก่อนเพิ่มการลงทุนในแต่ละประเทศต่อไป”