ชี้แจงถึงกับคำกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง และข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการแจ้งข่าวของ J-Trust

27 Feb 2018

อ้างถึงการแจ้งข่าวเกี่ยวกับ “การรับทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (การแจ้งข่าวต่อเนื่อง)” เมื่อวันที่ 21 และ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ของ JTRUST ซึ่งมีความไม่ถูกต้อง เป็นเท็จ และก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“GL”) ขอชี้แจงดังนี้

สถานการณ์ในประเทศไทย

  • J Trust กล่าวอ้างว่า บริษัท เจทรัสต์ เอเชีย พีทีอี จำกัด (J Trust Asia Pte. Ltd.) (“JTA”) ได้ยื่นฟ้อง GL กรรมการที่เกี่ยวข้อง และนายมิทซึจิ โคโนชิตะ (Mr. Mitsuji Konoshita) เป็นคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย และมีการนำส่งหมายเรียบร้อยแล้ว

    ข้อเท็จจริงคือจะยังไม่มีการดำเนินคดีแพ่งในชั้นศาลในเร็วๆนี้ เนื่องจากภายหลังจากที่ JTA ยื่นคำฟ้องเป็นคดีแพ่ง JTA ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลในทันที ซึ่งตามผลของกฎหมายล้มละลายนั้น จะต้องมีการ ระงับกระบวนการพิจารณาคดีแพ่ง ไว้ชั่วคราวจนกว่าคดีฟื้นฟูกิจการจะมีผลอย่างใดอย่างหนึ่งภายใต้กฎหมายล้มละลาย

    ดังนั้น JTRUST และ JTA ซึ่งทราบดีและตั้งใจทำให้ผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่น เกิดความเข้าใจผิด ว่าจะมีการดำเนินคดีแพ่ง เนื่องจากขณะที่ยื่นฟ้องคดีแพ่งนั้น JTRUST และ JTA ทราบดีอยู่แล้วว่าจะไม่มีการดำเนินคดีในชั้นศาลจนกว่าจะมีการยกคำร้อง หรือ คำตัดสินในคดีฟื้นฟูกิจการ

    JTRUST และ JTA ตั้งใจที่จะไม่รายงานและเปิดเผยข้อมูลต่อผู้มีส่วนได้เสีย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่น ว่า หากมีการยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม จะต้องมีการพิสูจน์ต่อไปในชั้นศาลว่าการที่ JTA บอกเลิกสัญญาการลงทุน (Investment Agreement) ดังกล่าวนั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีระยะเวลาในการพิจารณาประมาณ 3-5 ปี ก่อนที่ศาลแพ่งจะมีคำตัดสินในคดีดังกล่าว ซึ่งในระหว่างนี้ GL ไม่มีหน้าที่ชำระดอกเบี้ย หรือ ไถ่ถอน หรือชำคืนค่าหุ้นกู้แปลงสภาพแต่อย่างใด


  • JTRUST กล่าวในการแจ้งข่าวว่า “ภายใต้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติล้มละลายของประเทศไทย GL ไม่สามารถจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สิน ให้เช่า ชำระหนี้สิน สร้างหนี้สิน หรือกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดภาระหนี้สินของบริษัท เว้นเสียแต่เป็นการกระทำที่จำเป็นเพื่อให้การดำเนินการค้าสามารถดำเนินไปได้”

    JTRUST และ JTA ทราบดีว่าตนได้ละเว้นการ รายงานและเปิดเผยข้อมูลต่อผู้มีส่วนได้เสีย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่น ว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 ศาลล้มละลายกลางได้อนุญาตให้ GL สามารถชำระค่าดอกเบี้ยต่อเจ้าหนี้ได้ เช่น หุ้นกู้มีประกันบางส่วน และหุ้นกู้แปลงสภาพ ดังนั้น GL สามารถดำเนินการประกอบธุรกิจโดยปราศจากความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้ทุกราย

    JTRUST ยังได้กล่าวข้อความอันเป็นเท็จในการแจ้งข่าวว่า “อย่างไรก็ดี GL ยังไม่ได้ชำระหนี้ใดๆ ให้กับ JTA ตามสัญญาการลงทุน (Investment Agreement) ในหุ้นกู้แปลงสถาพแต่อย่างใด” โดยมีข้อเท็จจริงมีดังนี้ (1) GL ชำระดอกเบี้ยที่เกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมดที่ครบกำหนดให้แก่ JTA แล้ว (2) JTA ยกเลิกสัญญาการลงทุนและหุ้นกู้แปลงสภาพโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ GL ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยที่เหลือของหุ้นกู้แปลงสภาพภายใต้ข้อกำหนดของหุ้นกู้แปลงสภาพได้เนื่องจากยังมีข้อพิพาทระหว่างกันอยู่ในชั้นศาล ซึ่งเป็นการฟ้องคดีโดย JTA เองและ (3) GL จะชำระหนี้ภายใต้ข้อกำหนดของหุ้นกู้ และหุ้นกู้แปลงสภาพให้กับผู้ถือหุ้นกู้ ตามที่ได้รับอนุญาตจากศาลล้มละลายกลาง ยกเว้นกรณีของ JTA ที่จะต้องรอจนกว่าจะมีคำตัดสินเรื่องที่ JTA ยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย GL เชื่อว่าอาจจะมีระยะเวลาในการพิจารณาประมาณ 3-5 ปี นับจากนี้


  • JTRUST และ JTA ได้กล่าวข้อความอันเป็นเท็จและก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ผู้มีส่วนได้เสีย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่นว่า “JTA ได้แจ้งความร้องทุกข์คดีอาญาต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษและกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อดำเนินคดีต่อ GL และ นาย มิทซึจิ โคโนชิตะ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง” โดยจงใจที่จะละเว้นการรายงานในข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

(i) JTA ได้รับแจ้งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่มีอำนาจทำการสอบสวน เนื่องจากการข้อกล่าวหาที่ว่ากระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และ

(ii) JTA ในฐานะที่เป็นบุคคลต่างด้าว ไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการแจ้งความร้องทุกข์คดีอาญา จากการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร เพื่อดำเนินคดีต่อเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรไทย

ขณะนี้ GL กำลังพิจารณาว่าจะดำเนินคดีต่อ JTRUST และ / หรือ ะกรรมการที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยเรื่องการแจ้งความเท็จ การกระทำความผิดทางอาญาและทางแพ่งอื่นๆ หรือไม่ รวมถึงการกระทำฝ่าฝืน พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และ กฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วยการทําคําเสนอซื้อหุ้นของกิจการอีกด้วย