07 มกราคม 2565: กรุ๊ปลีสยื่นขอให้ศาลพิจารณาคดีอาญาที่ฟ้อง JTA และพวกอีก 2 คน หลังจากชนะคดีร้องขอฟื้นฟูกิจการ

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 กรุ๊ปลีสได้ฟ้องคดีอาญากับ JTA และกรรมการของ JTA อีก 2 คน คือ นายโนบุโยชิ ฟูจิซาวะ และ นายชิเกะโยชิ อาซาโนะ (ปัจจุบันเป็นอดีตกรรมการของ JTA) ในข้อหาร่วมกันยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการกรุ๊ปลีส ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างเท็จว่ากรุ๊ปลีสอยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการ ฟื้นฟูกิจการ         อันเป็นเหตุให้ชื่อเสียงของกรุ๊ปลีสได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังทำให้บริษัทขาดความน่าเชื่อถือ ในหมู่นักลงทุน จึงส่งผลเสียต่อมูลค่าหุ้นของบริษัทล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ศาลฎีกาแห่งประเทศไทย ได้ยกคำร้อง   ขอฟื้นฟูกิจการของ JTA อันเป็นคุณแก่กรุ๊ปลีส ฉะนั้นจะไม่มีการยื่นอุทธรณ์สำหรับคดีนี้โดย JTA อีกต่อไป และคดีนี้ถึงที่สุดแล้ว เรารู้สึกยินดีที่เราสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และพิสูจน์ให้เห็นว่าคำกล่าวหาของ JTA ที่ว่ากรุ๊ปลีสจะต้องเข้าฟื้นฟูกิจการนั้นไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งจะทำให้นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสีย ของกรุ๊ปลีสมั่นใจในสถานะของบริษัทมากยิ่งขึ้น”

นายริกิ อิชิกามิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “ในขณะที่เรารู้สึกยินดีที่ศาลฎีกาได้ยุติข้อสงสัยในเรื่องที่กรุ๊ปลีสมีสถานะต้องเข้าฟื้นฟูกิจการ นั้น ในมุมมอง ของพวกเรา JTA นายโนบุโยชิ ฟูจิซาวะ และ นายชิเกะโยชิ อาซาโนะ ได้กระทำความผิดทางอาญา ตามมาตรา 90/80 ของพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 พวกเขาได้ยื่นคำร้องอันเป็นเท็จในการขอฟื้นฟูกิจการกรุ๊ปลีส ต่อศาลล้มละลายกลาง คดีนี้ได้ถูกสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว เพื่อรอให้มีคำพิพากษาจนถึงที่สุดในคดีฟื้นฟูกิจการ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 กรุ๊ปลีสจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอให้พิจารณาคดี อาญาที่ฟ้องต่อ JTA นายโนบุโยชิ ฟูจิซาวะ และ นายชิเกะโยชิ อาซาโนะ นี้ใหม่ ศาลจึงได้กำหนดนัดพร้อม ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อพิจารณาว่า จะนำคดีกลับมาพิจารณาใหม่หรือไม่ ซึ่งการลงโทษสำหรับ คดีอาญาของจำเลยดังกล่าว คือ หากบริษัทชนะคดีนี้ จำเลยต้องระวางโทษปรับ ไม่เกินสามแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินสามปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และเราจะขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยจะติดตามให้ JTA และกรรมการแต่ละคนของ JTA ชดใช้ความเสียหายที่พวกเขาทำกับกรุ๊ปลีส และผู้ถือหุ้นของพวกเรา และจะทำให้พวกเขาต้องชดใช้ผลของการกระทำในคดีอาญานี้ ซึ่งในประเทศไทย ศาลล้มละลายกลางจะเป็นศาลที่พิจารณาคดีอาญาอันเกี่ยวเนื่องกับการยื่นขอฟื้นฟูกิจการอันเป็นเท็จ โดยศาลดังกล่าวยังเป็นศาลเดียวกันกับศาลที่พิพากษาให้กรุ๊ปลีส ชนะคดีฟื้นฟูกิจการล่าสุด เนื่องจากพิพากษา ว่า กรุ๊ปลีสไม่เข้าข่ายตามข้อกำหนดที่ต้องเข้าฟื้นฟูกิจการ

นอกจากนี้ ข้าพเจ้าต้องการจะกล่าวเพิ่มเติมว่า กรุ๊ปลีสยังคงมีคดีความที่ฟ้อง JTA อยู่อีก โดยเป็นคดีความที่มีทุนทรัพย์จำนวน 9.13 พันล้านบาท อันเป็นมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกรุ๊ปลีส และผู้ถือหุ้นของกรุ๊ปลีส อีกทั้งเรากำลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ที่กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ไม่ให้กรุ๊ปลีสได้รับเงินจำนวน 685 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้กรุ๊ปลีสได้รับ จากการที่ JTA สร้างความเสียหายให้แก่กรุ๊ปลีส โดยในการยื่นฎีกาต่อศาลฎีกา เพื่อเรียกร้องเงิน จำนวน 685 ล้านบาท นั้น เราจะอ้างคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ยกคำร้องของ JTA ในการยื่นอุทธรณ์ขอฟื้นฟูกิจการ