ผู้เขียน: admin
GL ผนึก ‘สยามคูโบต้า' รุกปล่อยสินเชื่อภาคเกษตรในกัมพูชา
05 Sep 2013
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กรุ๊ปลีส หรือ GL และ นายฮิโรชิ คาวาคามิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บจ. สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น พร้อมคณะผู้บริหารของทั้งสองบริษัท ร่วมพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น (MOU) ในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างกัน โดย GL จะทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตรของสยามคูโบต้าในประเทศกัมพูชา ซึ่งนับเป็น การขยายธุรกิจครั้งสำคัญและเป็นการเพิ่ม Synergy ให้กับ GL หลังจากการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในกัมพูชากำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ประมวลภาพพิธีลงนามใน MOU กับสยามคุโบต้า
05 Sep 2013
สถานที่จัดงาน อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ในวันงานการจราจรบริษัทหน้าตลาดฯ ติดขัดอย่างสาหัส คุณมิตซูจิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารต้องเปลี่ยนรถประจำตำแหน่ง
คุณวารินทร์ สัจเดว ทำหน้าที่พิธีกรในงาน
จากซ้ายไปขวา คุณโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส คุณฮิโรชิ คาวาคามิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด คุณมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณสมชัย ลิมปพัฒนสิน กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน)
ภายหลังการลงนาม คุณมิตซูจิบรรยายถึงแผนการในการขยายธุรกิจไปยังเครื่องจักรการเกษตรในประเทศกัมพูชา
GL เซ็น MOU ผนึกความร่วมมือ ‘สยามคูโบต้า' รุกปล่อยสินเชื่อเครื่องจักรกลเกษตร บุกตลาดกัมพูชา
05 Sep 2013
GL ผนึกความร่วมมือ “สยามคูโบต้า” ผู้ผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรรายใหญ่ของไทย รุกปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกร บุกตลาดกัมพูชาเต็มสูบ มั่นใจเพิ่มโอกาส พร้อมสร้าง Synergy ให้กับธุรกิจ หลังการทำธุรกิจลิสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ในกัมพูชากำลังรุดหน้าอย่างเต็มที่ ชี้ตลาดมีแนวโน้มเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมที่เป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจกัมพูชา
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2556 บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หนึ่งในผู้นำผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และบริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำด้านเครื่องจักรกลทางการเกษตรของประเทศไทย ได้จัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น (MOU) ในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างกัน ซึ่งภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว GL จะทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตรของสยามคูโบต้าในประเทศกัมพูชา
สำหรับ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท คูโบต้า คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และเอสซีจี (SCG)โดยบริษัทฯ เป็นผู้จำหน่ายเครื่องจักรกลทางการเกษตรยักษ์ใหญ่ในประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ซึ่งยอดขายของบริษัทฯ เติบโตจาก 162 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 4,000 ล้านบาท (ตัวเลขประมาณการ) ณ สิ้นปี 2556 หรือเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 20 เท่าตัว ในช่วงระยะเวลาเกือบ 10 ปี
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GL เปิดเผยว่า ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว GL จะทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตรของสยามคูโบต้า ในประเทศกัมพูชา ผ่านบริษัท GL Finance หรือ GLF ซึ่งเป็นบริษัทลูก จากเดิมที่การขายสินค้าและการให้บริการสินเชื่อจะเป็นหน้าที่ของดีลเลอร์หรือตัวแทนจำหน่ายของสยามคูโบต้า
“ต้องยอมรับว่า ภาคเกษตรกรรมเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจกัมพูชา และเป็นตลาดที่มีโอกาสในการขยายตัวและเติบโตอีกมาก ดังนั้น สยามคูโบต้าจึงเห็นเป็นโอกาสที่ดีที่จะจัดโครงสร้างการให้บริการกับลูกค้า โดยให้ดีลเลอร์ทำหน้าที่ขายและให้บริการหลังการขาย ส่วนการปล่อยสินเชื่อ ก็จะเป็นหน้าที่ของ GLF ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญมากกว่า โดยเราเชื่อว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและมาตรฐานการครองชีพของเกษตรกรชาวกัมพูชา ซึ่งจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด” นายมิทซึจิ กล่าว
ในส่วนของ GL นั้น การได้รับความไว้วางใจให้ดูแลสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้กับสยามคูโบต้าในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มโอกาสและสร้าง Synergy ให้กับธุรกิจของบริษัทฯ หลังจากที่การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ในตลาดกัมพูชากำลังเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง ยังนับเป็นการเปิดโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้กับ GL จากธุรกิจที่หลากหลายขึ้นในประเทศกัมพูชาอีกด้วย
นายฮิโรชิ คาวาคามิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า สยามคูโบต้า ประกอบธุรกิจด้านเครื่องจักรกลการเกษตรอย่างครบวงจร และเป็นผู้นำด้านเครื่องจักรการเกษตรในภูมิภาคอาเซียน ในส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศ ปัจจุบันเขตรับผิดชอบพื้นที่การขายของสยามคูโบต้าประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และประเทศอื่นๆ จากการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศกัมพูชา สยามคูโบต้าได้รับการตอบรับอย่างดีจากเกษตรกรกัมพูชา และพบว่าเกษตรกรกัมพูชามีความต้องการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร แต่ยังขาดความพร้อมทางด้านการเงินจึงยังไม่สามารถเป็นเจ้าของเครื่องจักรกลการเกษตรได้ สยามคูโบต้าจึงมีแนวคิดที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเป็นเจ้าของเครื่องจักรกลการเกษตรได้ง่ายขึ้น โดยเพิ่มทางเลือกและโอกาสทางการเงินให้แก่เกษตรกรกัมพูชา จึงได้หาพันธมิตรทางการเงินที่พร้อมจะให้การสนับสนุนสินเชื่อด้านการเกษตรแก่เกษตรกรกัมพูชา โดยบริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับ บมจ.กรุ๊ปลีส ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อ และดำเนินธุรกิจเช่าซื้อในประเทศกัมพูชา และเป็นบริษัทไฟแนนซ์รายแรกที่ได้รับการอนุญาตจากธนาคารกลางกัมพูชาให้สามารถประกอบธุรกิจเช่าซื้อได้ โดยรูปแบบการดำเนินงาน บมจ.กรุ๊ปลีส จะสนับสนุนการให้สินเชื่อเช่าซื้อผ่านผู้แทนจำหน่ายของสยามคูโบต้าที่ประเทศกัมพูชา บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเอื้อประโยชน์ให้เกษตรกรกัมพูชาให้มีสภาพคล่องทางการเงิน และสามารถเป็นเจ้าของเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งเป็นต้นทุนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในปี 2557 บริษัทฯ จะมีการลงทุนก่อตั้งบริษัทใหม่ในประเทศกัมพูชา โดยใช้ชื่อว่า “KUBOTA CAMBODIA” มีสำนักงานตั้งอยู่ ณ กรุงพนมเปญ เนื่องจากประเทศกัมพูชามีอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงมี แผนขยายและพัฒนาเครือข่ายในการจัดจำหน่าย การส่งเสริมการจัดทำกิจกรรมด้านการตลาด รวมถึงการพัฒนาระบบการบริการหลังการขายและอะไหล่ โดยมีเป้าหมายในการขาย 5,000 ล้านบาท ในกัมพูชา ภายในปี พ.ศ. 2558
บอร์ด GL ไฟเขียวจ่ายปันผลงวดครึ่งปีแรก 0.11 บาทต่อหุ้น จ่อเซ็นสัญญาผู้ผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรรายใหญ่ของญี่ปุ่น หวังบุกตลาดสินเชื่อภาคเกษตรกัมพูชา-ดันรายได้ทั้งปีโตตามเป้า
27 Aug 2013
บอร์ด GL ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งแรกปี 2556 หุ้นละ 0.11 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 112 ล้านบาท หลังโชว์ผลงานช่วง 6 เดือนแรก โกยกำไรกว่า 181 ล้านบาท ขยายตัวกว่า 25% มั่นใจภาพรวมธุรกิจสดใสและเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้สามารถจ่ายปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ เผยจ่อเซ็นสัญญากับผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรรายใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อบุกตลาดสินเชื่อภาคการเกษตรซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจกัมพูชา ยอมรับเป็นก้าวสำคัญที่ยิ่งเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หนึ่งในผู้นำผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2556 ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก (มกราคมถึงมิถุนายน 2556) ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 112 ล้านบาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 12 กันยายน 2556 และวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date)ในวันที่ 16 กันยายน ก่อนที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 กันยายน 2556
การประกาศจ่ายเงินปันผลดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ GL โชว์ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 อย่างโดดเด่น โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 181.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 25.60% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีกำไรสุทธิ 144.5 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศ พร้อมๆ กับการรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญจากการทำธุรกิจของ GL ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกัมพูชา ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ สามารถที่จะรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ
ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GL ยังกล่าวด้วยว่า ล่าสุด บริษัทฯ คาดว่า ในเร็วๆ นี้จะสามารถเซ็นสัญญากับผู้ผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อรุกทำตลาดสินเชื่อสำหรับภาคเกษตรในกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชาที่มีโอกาสในการขยายตัวอีกมาก ดังนั้น เมื่อการเซ็นสัญญาดังกล่าวเกิดขึ้น และ GL สามารถรุกเข้าทำตลาดสินเชื่อภาคเกษตรในกัมพูชา ผนวกกับการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของ GL ในกัมพูชาที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสและศักยภาพให้กับบริษัทฯ ในการที่จะสร้างกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการขยายธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
“ส่วนการเดินหน้าธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยนั้น ในไตรมาสที่ 3 เรายังคงเดินหน้าตามแผน โดยยังคงยืนยันเป้าหมายยอดขายเฉลี่ยเพิ่มเป็น 10,000 หน่วยต่อเดือน และเพิ่มเป็น 12,000 หน่วยต่อเดือนในช่วงปลายปีนี้” นายมิทซึจิกล่าว
GL โชว์กำไรครึ่งแรกปี 56 กว่า 181 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.60% รับปัจจัยหนุนทั้งการขยายตัวของธุรกิจในประเทศ-รับรู้รายได้ต่างประเทศ มั่นใจครึ่งปีหลังติดปีก ดันกำไรทุบสถิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์
14 Aug 2013
GL โชว์ตัวเลขกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 2556 กว่า 181 ล้านบาท ขยายตัว 25.60% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ชี้ปัจจัยหนุนมาจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจลีสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศ พร้อมการรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญจากการทำธุรกิจในต่างประเทศ แจงรายได้ไตรมาส 2 ขยายตัวอย่างน่าพอใจ แต่บริษัทฯ รับรู้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจ GLF ในกัมพูชาทั้งจำนวน ส่งผลให้กำไรไตรมาส 2 เติบโตได้เพียง 2.41% จากปีก่อน ลั่นครึ่งปีหลังเตรียมเดินหน้าเต็มสูบ มั่นใจเป็นโอกาสทองของการสร้างกำไรที่ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ขีดความสามารถในการจ่ายปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น หลังบริษัทลูกในสิงคโปร์ GLH มีมติจ่ายปันผล 70% ของกำไรสุทธิและกำหนดจ่ายทุกไตรมาส
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หนึ่งในผู้นำผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 (มกราคมถึงมิถุนายน) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 181.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 25.60% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีกำไรสุทธิ 144.5 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2556 (เมษายนถึงมิถุนายน)บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 90.84 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.41% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 88.7 ล้านบาท
“ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มาจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศ พร้อมๆ กับการรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญจากการทำธุรกิจของ GL ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกัมพูชา ซึ่งมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/2556 ของเราเติบโตจากปีก่อนเพียง 2.41% และเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 1/2556 ที่มีกำไรสุทธิ 91.30 ล้านบาท ทั้งๆ ที่รายได้เติบโตอย่างน่าพอใจนั้น เป็นผลมาจากการที่เราตัดสินใจรับรู้ค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งธุรกิจในกัมพูชาทั้งจำนวน เป็นการตัดค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียว ซึ่งจะส่งผลให้ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เราไม่จำเป็นต้องกังวลกับภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าว และนั่นจะเป็นปัจจัยผลักดันให้กำไรสุทธิในครึ่งปีหลังของ GL สามารถทำลายสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ได้อย่างแน่นอน” นายมิทซึจิกล่าว
ทั้งนี้ กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 ของ GL เป็นตัวเลขที่รวมกำไรจากธุรกิจในต่างประเทศไว้แล้วจำนวน 16.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ เริ่มรับรู้กำไรจากธุรกิจในต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ และเชื่อมั่นว่า หลังจากนี้ กำไรจากธุรกิจในต่างประเทศจะเข้ามาอย่างสม่ำเสมอและมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปัจจุบัน GL ลงทุนในประเทศกัมพูชาผ่านบริษัทลูก คือ GL Finance หรือ GLF ที่ได้รับใบอนุญาตทำธุรกิจลีสซิ่งจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชา และเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับสิทธิปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ จากตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศกัมพูชา โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 95% ของตลาดรถจักรยานยนต์ทั้งหมด โดยปัจจุบัน GLF ได้เปิดสำนักงานขายในกัมพูชาเพิ่มอีก 3 แห่ง อยู่ในพระตะบอง 2 แห่ง และรัตนคีรีอีก 1 แห่ง ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเปิดสำนักงานขายครอบคลุมทั่วประเทศอีก 26 แห่งภายในปีนี้
ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GL กล่าวด้วยว่า ในปีนี้นับได้ว่าเป็นปีแห่งการเริ่มต้นเก็บเกี่ยวรายได้และกำไรจากธุรกิจในต่างประเทศอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจของ GLF ในกัมพูชาที่ผ่านช่วงทดลองทำธุรกิจ จนนับได้ว่าประสบความสำเร็จและพร้อมจะเดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยเป้าหมายในการปล่อยกู้อยู่ที่ 2,000 หน่วยต่อเดือน ขณะที่ GL Holding หรือ GLH ในสิงคโปร์ซึ่งทำหน้าที่ในการหาแหล่งเงินต้นทุนต่ำเพื่อสนับสนุนให้กับบริษัทในเครือ ได้กำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตรา 70% ของกำไรสุทธิ กำหนดจ่ายทุกไตรมาส ซึ่งจะส่งผลต่อขีดความสามารถในการจ่ายปันผลระหว่างกาลของ GL ให้เพิ่มขึ้น
ในส่วนของธุรกิจในประเทศไทยนั้น แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ GL กลับไม่ได้รับผลกระทบและยังคงเติบโตอย่างสวนกระแส เพราะนอกจากจะมีการขยายการทำตลาดในเชิงรุกแล้ว บริษัทฯ ยังขยายตัวแทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยอดขายเฉลี่ยในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้อยู่ที่ 8,000 หน่วยต่อเดือน เพิ่มขึ้น 35% จากระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเฉลี่ยเพิ่มเป็น 10,000 หน่วยต่อเดือนในไตรมาสที่ 3 และเพิ่มเป็น 12,000 หน่วยต่อเดือนในช่วงปลายปีนี้
“ธุรกิจลีสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ในเมืองไทยจัดว่าเป็นธุรกิจที่มีความพิเศษ เฉพาะตัว เพราะไม่หวั่นไหวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งเพราะอัตราผ่อนชำระต่องวดไม่สูงมาก ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์กลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อผู้คนมากขึ้น ซึ่งหลายครั้งที่ผ่านมา เราพบว่า ผลประกอบการของ GL มักจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังจากผ่านวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งปัจจัยในประเทศและการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศ ทำให้เรามั่นใจว่า นาทีนี้คือโอกาสของเราจริงๆ” นายมิทซึจิกล่าว