Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

09 มีนาคม 2560 : GL ฝ่ามรสุมข่าวลือ เดินหน้ารุกขยายธุรกิจ พุ่งเป้าตลาดอินโดฯ ใหญ่สุดในอาเซียน

มีนาคม 2017

09 Mar 2017

นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในภูมิภาคเอเชีย ประกาศกร้าวว่าปัจจัยพื้นฐานบริษัทฯ ไม่เปลี่ยน ยังเดินหน้ารุกขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ โดยล่าสุดเตรียมขยายธุรกิจเต็มสูบในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนที่มีประชากรกว่า 250 ล้านคน

นายมิทซึจิ กล่าวแสดงความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตและการสร้างผลกำไรมากขึ้นของ GL หลังจากที่หุ้นของ GL ถูกเทขายอย่างหนักในรอบหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากข้อมูลที่ไม่ชัดเจนในข้อสังเกตประกอบงบการเงินปี 2559 ของผู้สอบบัญชี ประกอบกับข่าวลือในเชิงลบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับจำนวน 3,477 ล้านบาท ซึ่งบริษัทย่อยในสิงคโปร์คือ GL Holdings (GLH) ได้ให้บริษัทอื่นอีก 2 กลุ่มในไซปรัสและสิงคโปร์กู้ยืมต่อ ซึ่งผู้กู้เป็นผู้ถือหุ้นใน GL ด้วย ได้นำหุ้น GL มาเป็นส่วนหนึ่งของหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ยืมดังกล่าว

นายมิทซึจิ กล่าวชี้แจงผ่านระบบ SKYPE จากประเทศอินโดนีเซียว่า ผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มในไซปรัสและอินโดนีเซียนั้น อันที่จริงคือดีลเลอร์รถมอเตอร์ไซค์ เครื่องจักรกลเกษตรและสินค้าอื่นๆ ในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นคู่ค้าของ GL มาเป็นเวลาหลายปีและมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

“ดีลเลอร์เหล่านี้มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 100 ราย ซึ่งบางรายเป็นคู่ค้าของเรายาวนานถึง 4-5 ปี ถือว่าเป็นกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ในกัมพูชาที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจและมี Record การชำระคืนเงินกู้ที่ตรงต่อเวลา โดยตั้งแต่ต้นมาจนถึงปัจจุบันยังไม่มี Default (ผิดนัดชำระหนี้) และไม่มี NPL” นายมิทซึจิ กล่าว

ส่วนสาเหตุที่ต้องไปทำบันทึกรายงานเงินกู้เหล่านี้นอกประเทศกัมพูชา สืบเนื่องจากบริษัทฯ เหล่านี้ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเข้าสู่ระบบภาษีของรัฐบาลกัมพูชา โดยเงินกู้สำหรับดีลเลอร์กลุ่มนี้มีมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 55% ของยอดเงินกู้ทั้งหมด ในขณะที่เงินกู้ส่วนที่เหลืออีก 45% นั้น บริษัทย่อยของ GL ในกัมพูชาสามารถปล่อยกู้โดยตรงให้กับดีลเลอร์อีกกลุ่มหนึ่งที่ได้ขึ้นทะเบียนในระบบภาษีของรัฐบาลแล้ว

อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากที่รัฐบาลกัมพูชามีมาตรการเข้มงวดในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อบังคับให้บริษัทห้างร้านเอกชนเข้าจดทะเบียนสู่ระบบภาษีทางการ เพื่อที่รัฐบาลจะเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงคาดว่ามูลค่าการปล่อยกู้นอกประเทศกัมพูชานั้นคงจะค่อยๆ ลดลง โดยคาดว่าดีลเลอร์ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนภาษีจะทยอยเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะทำให้ GL สามารถปล่อยกู้โดยตรงในกัมพูชาได้

ส่วนเหตุผลที่ไปทำบันทึกเงินกู้ในประเทศไซปรัสและสิงคโปร์นั้น สืบเนื่องจากโครงสร้างทางกฎหมายและโครงสร้างภาษีเอื้ออำนวยต่อการทำธุรกรรมดังกล่าว

ขณะที่ข้อสงสัยอีกประการหนึ่ง ที่นักลงทุน VI (Value Investor) ได้หยิบยกขึ้นวิพากษ์วิจารณ์คืออัตราดอกเบี้ยที่สูงถึง 16-17% นั้น นายมิทซึจิกล่าวชี้แจงว่าดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นเพียง 6% เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นค่าธรรมเนียมและค่าบริการอื่นๆ ซึ่งรวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 15-16%

สำหรับประเด็นข้อสงสัยอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับมูลค่าของสินทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันเงินกู้นั้น นายมิทซึจิกล่าวชี้แจงว่า หลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันเงินกู้นั้น ประกอบด้วย หุ้นของบริษัท GL และบริษัทอื่น อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไซปรัสและบราซิล พันธบัตรรัฐบาลของไซปรัส โดยไม่รวมถึง Inventory (รถจักรยานยนต์ที่อยู่ในสต๊อกของดีลเลอร์) ซึ่งหากคำนวณมูลค่าทั้งสิ้นแล้วจะมีมูลค่าสูงกว่ายอดเงินกู้ โดยสามารถแยกแยะรายละเอียดคือในส่วนของอสังหาริมทรัพย์นั้นตีมูลค่าเพียง 50% ของราคาตลาด ซึ่งมูลค่า 50% ดังกล่าวเทียบเท่ากับ 68% ของยอดเงินกู้ และหากรวมมูลค่าของหุ้น พันธบัตรรัฐบาล ตลอดจนสต๊อกมอเตอร์ไซค์ของดีลเลอร์แล้ว จะมีมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 200% ของยอดเงินกู้

ต่อคำถามที่ว่า GL มีความจำเป็นจะต้องตั้งสำรองเพิ่มเติม เนื่องจากราคาหุ้นของ GL ด้อยค่าลงอย่างมาก นายมิทซึจิกล่าวยืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นต้องตั้งสำรองเนื่องจากมูลค่าของหลักทรัพย์ค้ำประกันโดยรวมนั้นมีเพียงพอและหากมีความจำเป็นในอนาคต GL ก็สามารถเรียกขอหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มเติมจากผู้กู้ได้

ต่อข้อความเรื่องการยืดระยะเวลาคืนเงินกู้นั้น นายมิทซึจิชี้แจงว่า โดยปกติ GL จะเริ่มปล่อยกู้ให้ลูกค้าดีลเลอร์เหล่านี้ โดยมีระยะเวลาชำระคืนเพียง 3 เดือน เมื่อครบกำหนด 3 เดือน ก็จะโรลโอเวอร์ต่อไปอีก 3 เดือน แต่หลังจากที่ลูกค้าดีลเลอร์เหล่านี้มี Record การชำระคืนตรงต่อเวลา GL ก็ขยายระยะเวลาชำระคืนเป็น 1 ปี ครบกำหนดแล้วก็โรลโอเวอร์ต่อ และหลังจากที่ลูกค้าสามารถยืนยันตรงต่อเวลาในการชำระคืน GL ก็อนุมัติขยายช่วงโรลโอเวอร์เป็น 3 ปี ทั้งนี้ ลูกค้าดีลเลอร์เหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามีความซื่อตรงไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ส่วนการที่ลูกค้าเหล่านี้มาซื้อหุ้น GL นั้นถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา เนื่องจาก GL เป็นผู้ค้าที่มีความสัมพันธ์ที่ดีและลูกค้าเหล่านี้ก็เห็นศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ จึงซื้อหุ้นของ GL ในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยที่บริษัทฯ ไม่ทราบ

นายมิทซึจิกล่าวแสดงความมั่นใจว่า ปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดของ GL ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยบริษัทฯ ยังเดินหน้ารุกขยายธุรกิจอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนและคาดว่าผลประกอบการจะขยายตัวอย่างก้าวกระโดดตามที่ได้วางเป้าไว้เดิม

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

09 มีนาคม 2560 : วีดีโอประชุมนักวิเคราะห์ ณ วันที่ 9 มีนาคม 2560

วีดีโอประชุมนักวิเคราะห์ ณ วันที่ 9 มีนาคม 2560

09 Mar 2017

งานประชุมนักวิเคราะห์เพื่อแจกแจงงบการเงิน ณ วันที่ 9 มีนาคม 2560 ห้องสโรชา โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด

ในวันดังกล่าว คุณทะซึยะ โคโนชิตะ ประธานกรรมการบริหาร ได้แถลงการอธิบายถึงข้อกังวลในการทำธุรกรรมของบริษัทในสิงคโปร์และไซปรัส

โปรดดูที่ URL ต่อไปนี้ สำหรับวิดีโอในวันดังกล่าว

 

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

08 มีนาคม 2560 : ชี้แจงเรื่องข่าวในหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น

ชี้แจงเรื่องข่าวในหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น

08 Mar 2017

เรียนนักลงทุนทุกท่าน

เนื่องจาก ข่าวที่ลงในหนังสือพิมพ์ ข่าวหุ้น ฉบับลงวันที่ 8 มีนาคม 2560 บริษัทได้รับคำถามจากผู้ถือหุ้น และนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์รวมทั้งพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาเป็นจำนวนมาก

บริษัทใคร่ขอเรียนชี้แจงว่า ข่าวที่ลงในหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นฉบับ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ดังกล่าวนั้น เป็นข่าวที่ไม่ถูกต้อง และเป็นการให้ข้อมูลที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง ดังนั้น บริษัทได้ขอให้ทางหนังสือพิมพ์ระงับข่าวดังกล่าว รวมทั้งให้ประกาศคำขออภัยลงในหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นด้วย

จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ขอขอบคุณ

 

(นายทัตซึยะ โคโนชิตะ)

ประธานกรรมการบริหาร

บริษัทกรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน)

 

Categories
ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์

06 มีนาคม 2560 : หุ้นเพิ่มทุนของ GL เริ่มซื้อขายวันที่ 7 มีนาคม 2560

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

06 มีนาคม 2560 : GL มั่นใจปล่อยกู้ SMEs หนุนกำไรโตก้าวกระโดด

GL มั่นใจปล่อยกู้ SMEs หนุนกำไรโตก้าวกระโดด

06 Mar 2017

ผู้บริหาร บมจ.กรุ๊ปลีส ผู้นำธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในภูมิภาคเอเชีย กล่าวแสดงความมั่นใจว่าการเพิ่มพอร์ตเงินกู้สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (SMEs) ในตลาดต่างๆ ที่กลุ่มบริษัท GL ให้สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับผู้กู้รายย่อย เป็นปัจจัยสำคัญช่วยเกื้อหนุนให้ผลกำไรของบริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อเนื่อง

นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL กล่าวแสดงความมั่นใจดังกล่าวหลังจากที่นักลงทุนบางกลุ่มได้แสดงความวิตกกังวลและตั้งคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสของบริษัทฯ ในการปล่อยเงินกู้ให้แก่ผู้กู้ 2 กลุ่มในประเทศสิงคโปร์และไซปรัส ตามข้อสังเกตหมายเหตุประกอบงบการเงินรวมประจำปี 2559 ของผู้สอบบัญชี โดยผู้สอบบัญชีระบุว่าเงินให้กู้ยืมดังกล่าวและดอกเบี้ยค้างรับจำนวน 3,477 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 40 ของสินทรัพย์สุทธิรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559) ซึ่งผู้กู้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทฯ ด้วยและได้นำหลักทรัพย์ส่วนหนึ่งที่เป็นหุ้นของบริษัทฯ มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ยืมดังกล่าว และหมายเหตุประกอบงบการเงินได้ระบุเพิ่มเติมว่าหลักทรัพย์ค้ำประกันอื่น ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ในเกาะไซปรัสและประเทศบราซิล พันธบัตรรัฐบาลไซปรัสและหุ้นในบริษัทอื่นในต่างประเทศ

นายมิทซึจิ กล่าวเน้นย้ำว่า ผู้กู้ 2 กลุ่มที่อยู่ในสิงคโปร์และไซปรัสดังกล่าว เป็นหุ้นส่วนการทำธุรกิจของ GL เป็นเวลายาวนานและมีความน่าเชื่อถือ โดยส่วนใหญ่เป็นดีลเลอร์รถเตอร์ไซค์ เครื่องจักรกลเกษตร แผงโซล่าร์เซลล์และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่น โดยดีลเลอร์เหล่านี้จัดหาสินค้าให้กับผู้กู้รายย่อยระดับรากหญ้าในตลาดต่างๆ ซึ่ง GL ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ และดีลเลอร์เหล่านี้ก็ได้กลายสภาพมาเป็นผู้ถือหุ้นของ GL ด้วย โดยนายมิทซึจิกล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำหรับหุ้นของ GL และหลักทรัพย์อื่นๆ ซึ่งใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ของดีลเลอร์เหล่านี้ ก็มีการตีมูลค่าอย่างยุติธรรมและมีมูลค่ามากกว่ายอดเงินกู้

สำหรับประเด็นข้อกังวลของนักลงทุนในเรื่องการขยายเวลาการชำระคืนเงินกู้นั้น นายมิทซึจิกล่าวชี้แจงว่า ในเบื้องแรกเงินกู้สำหรับผู้ประกอบการ SMEs เหล่านี้ จะเป็นเงินกู้ระยะสั้น 3 เดือน และโรลโอเวอร์เมื่อครบกำหนด แต่หลังจากที่บริษัทฯ มีความมั่นใจถึงเครดิตความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการคู่ค้าเหล่านี้ ก็จะปรับระยะเวลาชำระคืนเงินกู้เป็น 1 ปี โดยสามารถโรลโอเวอร์ต่อไปได้ตามความจำเป็นในการขยายธุรกิจของดีลเลอร์เหล่านี้ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นเรื่องปกติในการขยับขยายธุรกิจของ GL โดย GL สามารถเพิ่มพอร์ตสินเชื่อ ด้วยการขยายสินเชื่อให้กับกลุ่ม SMEs ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทำให้สามารถทำกำไรเพิ่มพูนได้อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยงบการเงินล่าสุดปี 2559 โชว์กำไรสุทธิ 1,062 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดโดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 82.34%

ส่วนการบันทึกรายการเงินกู้เหล่านี้ในประเทศสิงคโปร์และไซปรัสนั้น สืบเนื่องจากโครงสร้างภาษีของทั้ง 2 ประเทศ ที่เอื้อประโยชน์สำหรับการทำธุรกรรมดังกล่าว

Categories
ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์

01 มีนาคม 2560 : แบบรายงานผลการขายหลักทรัพย์ต่อตลาดหลักทรัพย์ (F53-5)