เดือน: กันยายน 2020
ศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ(แผนกคดีล้มละลาย) พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลล้มละลายกลางโดยยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ GL ที่ยื่นโดย JTA และคำตัดสินนี้ถือเป็นที่สุด
29 Sep 2020
นายอาลัน ฌอง ปาสคาล ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“GL”) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 นี้ ศาลล้มละลายกลางได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ(แผนกคดีล้มละลาย) (“ศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ”) ซึ่งพิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลล้มละลายกลางที่ให้ยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ GL ที่ยื่นโดย JTA
นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คดีนี้ถึงที่สุดแล้วและศาลก็ได้ตัดสินว่าการดำเนินธุรกิจของ GL ไม่เข้าข่ายที่จะต้องเข้าสู่กระบวนฟื้นฟูกิจการ โดยการที่ศาลได้ยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการที่ยื่นโดย JTA มาแล้วติดต่อกันสามครั้งอย่างต่อเนื่องในหลายชั้นศาล แสดงให้เห็นว่าศาลไม่เห็นด้วยกับคำร้องของ JTA
เราเชื่อว่าข้อกล่าวอ้างของ JTA นั้นเป็นข้อกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นเหตุผลไปสู่การที่ GL ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการที่ JTA ดำเนินคดีโดยมีเจตนาไม่สุจริต ซึ่งศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาเมื่อวัน 5 มีนาคม 2563 สั่งให้ JTA ชดใช้ค่าเสียหายแก่ GL จำนวน 685.5 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคดีนั้นเป็นการเรียกค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำของ JTA เฉพาะในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 10 มกราคม 2561 ถึง 19 มีนาคม 2561 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ GL ต้องตกอยู่ภายใต้สภาวะพักการชำหนี้ครั้งแรก นับแต่นั้นมา JTA ยังคงใช้ศาลเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความเสียหายให้ GL
เพื่อเป็นการโต้ตอบ ในช่วงต้นเดือนนี้ GL ยื่นฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจำนวน 9,130 ล้านบาท สำหรับความเสียหายและค่าทนายความ ซึ่งเกิดจากการดำเนินฟ้องคดีโดยมีเจตนาไม่สุจริตของ JTA เป็นการเรียกค่าเสียหายที่เกิดในช่วงวันที่ 20 มีนาคม 2561 ถึง 11 กันยายน 2563 GL มีความยินดีกับคำพิพากษาในวันนี้ และเราหวังว่าคำตัดสินนี้จะทำให้ JTA ล้มเลิกกลยุทธ์ที่ใช้การดำเนินการทางกฎหมายต่างๆอันเกิดจากเจตนาที่ไม่สุจริต
บริษัทกรุ๊ปลีสฟ้องคดีในไทยเรียกค่าเสียหายจาก JTA และกรรมการเป็นเงิน 9,130 ล้านบาท
18 Sep 2020
นายอาลัน ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“GL”) เปิดเผยว่า “เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 GL ได้ยื่นฟ้อง JTrust Asia Pte., Ltd. (“JTA”) คดีแพ่งในไทย เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวน 9,130 ล้านบาท (ประมาณ 292 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยคดีนี้คล้ายกับคดีแพ่งที่ฟ้องมาก่อนหน้านี้ ซึ่ง GL ชนะคดีมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 โดยศาลตัดสินว่า JTA ยื่นขอฟื้นฟูกิจการของ GL ต่อศาลไทย โดยมีเจตนาที่ไม่สุจริต ในคดีดังกล่าวศาลตัดสินว่าการกระทำของ JTA ก่อให้เกิดความเสียหาย จึงเป็นการทำละเมิดต่อ GL ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ JTA ชดใช้ค่าเสียหายรวมทั้งค่าทนายความแก่ GL เป็นจำนวน 685.5 ล้านบาท
ค่าเสียหายที่ GL ได้รับตามคำตัดสินของศาลในวันที่ 5 มีนาคม 2563 นั้น เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจาก GL ต้องตกอยู่ในภาวะพักการชำระหนี้ในช่วงระยะเวลาจากวันที่ 10 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2561 รวมเป็นเวลาทั้งหมด 68 วัน และรวมค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีความเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตาม JTA ยังคงทำการละเมิดต่อ GL อย่างต่อเนื่องเสมอมา แม้กระทั่งหลังจากวันที่ 19 มีนาคม 2561แล้ว อย่างไรก็ตาม JTA ก็ยังไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2561ที่ตัดสินให้ยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ GL โดย JTA อุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินดังกล่าวทันที การกระทำนี้ ทำให้ GL ต้องตกอยู่ในภาวะพักการชำระหนี้อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้กินเวลานานกว่าครั้งแรกและยาวต่อเนื่องมาจนจนกระทั่งศาลตัดสินยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม JTA ยังคงไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลและยื่นอุทธรณ์อีก การกระทำของ JTA นี้ รวมถึงการเป็นฝ่ายเริ่มต้นคดีความอื่นๆกับ GLในไทยและกับบริษัทย่อยของ GL ในสิงคโปร์ สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความเสียหายต่อ GL มากมายมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพบว่า การกระทำของ JTA เหล่านั้น มาจากการตัดสินใจและสั่งการโดย JTrust Co., Ltd. (“JTrust”) บริษัทแม่ของ JTA และกรรมการอีก 2 คน ดังนั้น GL จึงฟ้อง JTrust และกรรมการดังกล่าว เป็นคดีแพ่งนี้ด้วย”
นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ” ตราบใดที่ JTrust และบริษัทย่อย ยังคงใช้กลยุทธดำเนินการทางกฎหมายโดยมีเจตนาที่ไม่สุจริต และใช้ศาลเป็นเครื่องมือในการทำลาย GL ทางฝ่าย GL เองก็ต้องใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าวด้วย คดีที่ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 นี้ (และวางเงินค่าธรรมเนียมศาลแล้ววันที่ 17 กันยายน 2563) เป็นการเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2561 ถึงวันที่ 11 กันยายน 2563 ทั้งนี้ ตามที่ศาลเคยตัดสินให้ GL ได้รับค่าเสียหายจากการกระทำของ JTA วันละ 10 ล้านบาท คดีนี้ GL จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 9,070 ล้านบาท บวกกับค่าทนายความจำนวน 60 ล้านบาท รวมแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 9,130 ล้านบาท”