Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

29 กันยายน 2563 : ศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ(แผนกคดีล้มละลาย) พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลล้มละลายกลางโดยยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ GL ที่ยื่นโดย JTA และคำตัดสินนี้ถือเป็นที่สุด

ศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ(แผนกคดีล้มละลาย) พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลล้มละลายกลางโดยยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ GL ที่ยื่นโดย JTA และคำตัดสินนี้ถือเป็นที่สุด

29 Sep 2020

นายอาลัน ฌอง ปาสคาล ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“GL”) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 นี้ ศาลล้มละลายกลางได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ(แผนกคดีล้มละลาย) (“ศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ”) ซึ่งพิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลล้มละลายกลางที่ให้ยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ GL ที่ยื่นโดย JTA

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คดีนี้ถึงที่สุดแล้วและศาลก็ได้ตัดสินว่าการดำเนินธุรกิจของ GL ไม่เข้าข่ายที่จะต้องเข้าสู่กระบวนฟื้นฟูกิจการ โดยการที่ศาลได้ยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการที่ยื่นโดย JTA มาแล้วติดต่อกันสามครั้งอย่างต่อเนื่องในหลายชั้นศาล แสดงให้เห็นว่าศาลไม่เห็นด้วยกับคำร้องของ JTA

เราเชื่อว่าข้อกล่าวอ้างของ JTA นั้นเป็นข้อกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นเหตุผลไปสู่การที่ GL ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการที่ JTA ดำเนินคดีโดยมีเจตนาไม่สุจริต ซึ่งศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาเมื่อวัน 5 มีนาคม 2563 สั่งให้ JTA ชดใช้ค่าเสียหายแก่ GL จำนวน 685.5 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคดีนั้นเป็นการเรียกค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำของ JTA เฉพาะในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 10 มกราคม 2561 ถึง 19 มีนาคม 2561 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ GL ต้องตกอยู่ภายใต้สภาวะพักการชำหนี้ครั้งแรก นับแต่นั้นมา JTA ยังคงใช้ศาลเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความเสียหายให้ GL

เพื่อเป็นการโต้ตอบ ในช่วงต้นเดือนนี้ GL ยื่นฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจำนวน 9,130 ล้านบาท สำหรับความเสียหายและค่าทนายความ ซึ่งเกิดจากการดำเนินฟ้องคดีโดยมีเจตนาไม่สุจริตของ JTA เป็นการเรียกค่าเสียหายที่เกิดในช่วงวันที่ 20 มีนาคม 2561 ถึง 11 กันยายน 2563 GL มีความยินดีกับคำพิพากษาในวันนี้ และเราหวังว่าคำตัดสินนี้จะทำให้ JTA ล้มเลิกกลยุทธ์ที่ใช้การดำเนินการทางกฎหมายต่างๆอันเกิดจากเจตนาที่ไม่สุจริต

 

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

18 กันยายน 2563 : บริษัทกรุ๊ปลีสฟ้องคดีในไทยเรียกค่าเสียหายจาก JTA และกรรมการเป็นเงิน 9,130 ล้านบาท

บริษัทกรุ๊ปลีสฟ้องคดีในไทยเรียกค่าเสียหายจาก JTA และกรรมการเป็นเงิน 9,130 ล้านบาท

18 Sep 2020

นายอาลัน ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“GL”) เปิดเผยว่า “เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 GL ได้ยื่นฟ้อง JTrust Asia Pte., Ltd. (“JTA”) คดีแพ่งในไทย เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวน 9,130 ล้านบาท (ประมาณ 292 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยคดีนี้คล้ายกับคดีแพ่งที่ฟ้องมาก่อนหน้านี้ ซึ่ง GL ชนะคดีมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 โดยศาลตัดสินว่า JTA ยื่นขอฟื้นฟูกิจการของ GL ต่อศาลไทย โดยมีเจตนาที่ไม่สุจริต ในคดีดังกล่าวศาลตัดสินว่าการกระทำของ JTA ก่อให้เกิดความเสียหาย จึงเป็นการทำละเมิดต่อ GL ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ JTA ชดใช้ค่าเสียหายรวมทั้งค่าทนายความแก่ GL เป็นจำนวน 685.5 ล้านบาท

ค่าเสียหายที่ GL ได้รับตามคำตัดสินของศาลในวันที่ 5 มีนาคม 2563 นั้น เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจาก GL ต้องตกอยู่ในภาวะพักการชำระหนี้ในช่วงระยะเวลาจากวันที่ 10 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2561 รวมเป็นเวลาทั้งหมด 68 วัน และรวมค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีความเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตาม JTA ยังคงทำการละเมิดต่อ GL อย่างต่อเนื่องเสมอมา แม้กระทั่งหลังจากวันที่ 19 มีนาคม 2561แล้ว อย่างไรก็ตาม JTA ก็ยังไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2561ที่ตัดสินให้ยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ GL โดย JTA อุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินดังกล่าวทันที การกระทำนี้ ทำให้ GL ต้องตกอยู่ในภาวะพักการชำระหนี้อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้กินเวลานานกว่าครั้งแรกและยาวต่อเนื่องมาจนจนกระทั่งศาลตัดสินยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม JTA ยังคงไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลและยื่นอุทธรณ์อีก การกระทำของ JTA นี้ รวมถึงการเป็นฝ่ายเริ่มต้นคดีความอื่นๆกับ GLในไทยและกับบริษัทย่อยของ GL ในสิงคโปร์ สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความเสียหายต่อ GL มากมายมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพบว่า การกระทำของ JTA เหล่านั้น มาจากการตัดสินใจและสั่งการโดย JTrust Co., Ltd. (“JTrust”) บริษัทแม่ของ JTA และกรรมการอีก 2 คน ดังนั้น GL จึงฟ้อง JTrust และกรรมการดังกล่าว เป็นคดีแพ่งนี้ด้วย”

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ” ตราบใดที่ JTrust และบริษัทย่อย ยังคงใช้กลยุทธดำเนินการทางกฎหมายโดยมีเจตนาที่ไม่สุจริต และใช้ศาลเป็นเครื่องมือในการทำลาย GL ทางฝ่าย GL เองก็ต้องใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าวด้วย คดีที่ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 นี้ (และวางเงินค่าธรรมเนียมศาลแล้ววันที่ 17 กันยายน 2563) เป็นการเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2561 ถึงวันที่ 11 กันยายน 2563 ทั้งนี้ ตามที่ศาลเคยตัดสินให้ GL ได้รับค่าเสียหายจากการกระทำของ JTA วันละ 10 ล้านบาท คดีนี้ GL จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 9,070 ล้านบาท บวกกับค่าทนายความจำนวน 60 ล้านบาท รวมแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 9,130 ล้านบาท”

 

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

18 สิงหาคม 2563 : กรุ๊ปลีส โชว์ผลกำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท และเงินสดในมือที่ยังคงแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าทางธุรกิจ ขยายการให้บริการทั้งในและต่างประเทศ

กรุ๊ปลีส โชว์ผลกำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท และเงินสดในมือที่ยังคงแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าทางธุรกิจ ขยายการให้บริการทั้งในและต่างประเทศ

18 Aug 2020

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2563 มีกำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท โชว์เงินสดในมือกว่า 3.1 พันล้านบาท มั่นใจ เดินหน้าธุรกิจ ขยายการให้บริการทั้งในและต่างประเทศ กระแสตอบรับ “Motor and Car for Cash บริการถึงบ้าน” ดันยอดสินเชื่อพุ่ง ตรงใจ ตอบโจทย์ลูกค้า สอดรับวิถีใหม่ New Normal

นายอาลัน ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯมีกำไร 55.05 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2563 เนื่องจากเราสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินลงได้ถึง 75 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 อย่างไรก็ตาม เรายังมีค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย 21 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว และไตรมาสที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อไตรมาสนี้ คือ การระบาดของ Covid – 19 และการ lockdown ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดการปล่อยสินเชื่อที่ลดลงในระหว่างไตรมาสนี้ เนื่องจากผลของการ lockdown และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆที่ลดลง ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อในเดือนเมษายนลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อดูภาพรวมทั้งไตรมาสแล้วเห็นได้ว่ายอดการปล่อยสินเชื่อกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบเท่าเดิม นับได้ว่าเดือนเมษายนเป็นเดือนที่ยากลำบากสำหรับเราในการติดตามหนี้ อย่างไรก็ตามเราสามารถติดตามหนี้ได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และเราดำเนินการติดตามหนี้ได้ดีขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน ภาพรวมของไตรมาสนี้ ถือว่าการติดตามหนี้ทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับในประเทศไทย เราอนุมัติการพักชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ไปแล้วเกือบ 10,000 ราย เนื่องจากเราต้องการช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

สำหรับธุรกิจในต่างประเทศ เรายังคงมุ่งเน้นการให้สินเชื่อรายย่อยในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งยังคงที่ในเวลานี้ แม้รายได้จากสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 3 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่เราคาดหวังการเติบโตของธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ ก็มีการ lockdown เนื่องจากการระบาดของ Covid-19 เช่นกัน ซึ่งทำให้ความสามารถในการพบลูกค้าใหม่ของเราลดลง เราคาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นทันทีที่สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ

ในขณะที่เราไม่สามารถควบคุมหลายๆปัจจัยได้ การดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เรามีผลประกอบการที่ดีขึ้นและทำให้บริษัทฯมีกำไร แม้อยู่ในช่วงเวลานี้”

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ” ถือเป็นโชคดีที่เราดำเนินธุรกิจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วงก่อนสถานการณ์ Covid-19 นี้ เราเริ่มจะมีกำไร ถึงแม้ว่า Covid-19 ทำให้การเติบโตของเราช้าลงในไตรมาสนี้ ซึ่งเราเข้าใจสถานการณ์ดีขึ้น เราคาดว่าจะเริ่มการเติบโตอย่างชาญฉลาดอีกครั้งและใช้ประโยชน์จากเงินสดจำนวนมากที่เรามีอยู่ – มากกว่า 3.1 พันล้านบาท

อีกหนึ่งบริการที่จะทำให้เราเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ คือ “บริการถึงบ้าน” ให้กับลูกค้า Motor for Cash และ Car for Cash แทนที่จะให้ลูกค้ามาที่สาขา พนักงานของเราจะไปบริการถึงบ้านลูกค้า ตั้งแต่ตรวจสภาพรถ รวมถึงขั้นตอนต่างๆจนเสร็จสิ้น เราได้เริ่มให้บริการนี้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ทำให้บริการนี้มีกระแสตอบรับที่ดีขึ้นมาก เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการ สอดรับวิถีใหม่ New Normal ลูกค้าชอบที่จะให้ไปบริการถึงบ้าน ทำให้เราปล่อยสินเชื่อ Motor for Cash ในเดือนมิถุนาปีนี้ได้มากกว่ามิถุนาปีที่แล้ว การที่เรามีกำไรในไตรมาสนี้ คาดว่าบริษัทฯ จะให้ผลตอบแทนที่มากขึ้นแก่บรรดาผู้ถือหุ้นของเรา

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

31 กรกฎาคม 2563 : ศาลแพ่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของ JTA

ศาลแพ่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของ JTA

31 Jul 2020

เจ ทรัสต์ เอเชีย (JTA) ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าว

ในช่วงเดือนมีนาคม 2563 GL ได้บอกเลิกสัญญาหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อ JTA เนื่องจาก JTA ใช้สิทธิไม่สุจริตในการยื่นฟ้องคดี โดยยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ GL และถูกศาลตัดสินยกคำร้องไปแล้วหลายครั้ง และ JTA ยังถูกศาลในคดีแพ่งพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ GL เป็นเงินจำนวน 685.5 ล้านบาท (ประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากการที่ GL ต้องตกอยู่ภายใต้สภาวะพักชำระหนี้ อันเกิดจาก JTA ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการดังกล่าว

ศาลแพ่งพิพากษาให้ JTA ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 685.5 ล้านบาท แก่ GL จากการที่ GL ตกอยู่ภายใต้สภาวะพักการชำระหนี้ในรอบแรก ในส่วนคดีฟื้นฟูกิจการนั้น ศาลได้ยกคำร้องแล้ว แต่ JTA ก็ยังคงอุทธรณ์ต่อไป เพื่อขอให้มีการฟื้นฟูกิจการของ GL ส่งผลให้ GL ตกอยู่ภายในสภาวะพักการชำระหนี้เป็นครั้งที่สอง กินเวลาเกือบครึ่งปีของปี 2562 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของ GL ประมาณ 2,380 ล้านบาท (ประมาณ 72 ล้านเหรียญสหรัฐ) ความเสียหายทั้งสองครั้งนี้ GL สามารถเรียกร้องต่อ JTA ได้มากกว่า 3 พันล้านบาท (ประมาณ 93 ล้านเหรียญสหรัฐ) GL ได้ขอหักกลับลบหนี้กับจำนวนเงินของหุ้นกู้แปลงสภาพ

เนื่องจากการที่ GL บอกเลิกสัญญาหุ้นกู้แปลงสภาพ และขอหักกลบลบหนี้กับความเสียหายที่เกิดขึ้น JTA ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวเป็นเงินจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และศาลได้ยกคำร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563

 

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

31 กรกฎาคม 2563 : APFH ในฐานะผู้ถือหุ้นของ GL ฟ้องคดีละเมิด JTrust

APFH ในฐานะผู้ถือหุ้นของ GL ฟ้องคดีละเมิด JTrust

31 Jul 2020

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด (APFH) ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของ GL ได้ยื่นฟ้อง บริษัท เจทรัสต์ จำกัด (JTrust Co., Ltd) บริษัท เจทรัสต์ พีทีอี จำกัด (JTrust Asia Pte. Ltd.) และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องรวม 4 รายเป็นจำเลยในคดีแพ่งต่อศาลแพ่ง พร้อมทั้งยื่นขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม (class action) เพื่อให้ผู้ถือหุ้นของ GL ที่ถือหุ้นในช่วงเวลาที่ศาลกำหนด (13 มีนาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน) มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับที่ APFH เรียกร้อง กล่าวคือ ค่าขาดประโยชน์ต่อหุ้น หุ้นละ 16.94 บาท คูณด้วยจำนวนหุ้นที่สมาชิกกลุ่มแต่ละคนถืออยู่ในระหว่างวันที่ 13 มีนาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะได้ขายหุ้นไปแล้วหรือไม่ก็ตาม ก็จะได้เป็นผลลัพท์เท่ากับค่าขาดประโยชน์ที่สมาชิกกลุ่มแต่ละรายควรจะได้รับพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับจากวันฟ้องคดี (24 กรกฎาคม 2563) ทั้งนี้ศาลได้กำหนดวันนัดพิจารณาคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่มในวันที่ 14 กันยายน 2563 เวลา 9.00 นาฬิกา

APFH ได้ขอให้ GL ช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อให้บรรดาผู้ถือหุ้นรับทราบในเบื้องต้น และหากศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีแบบกลุ่ม บรรดาผู้ถือหุ้นที่เป็นสมาชิกกลุ่มตามคำสั่งศาลจะมีสิทธิได้รับการพิจารณาเพื่อให้ได้รับค่าสินไหมทดแทนตามคำฟ้อง ในขณะนี้ทีมทนายความของ APFH กำลังรวบรวมข้อมูลของบรรดาผู้ถือหุ้น และจะแจ้งสิทธิพร้อมทั้งขั้นตอนในการดำเนินการต่อไป

 


กรุณาส่งเอกสารตามที่อยู่ด้านล่าง

บริษัท ดีแอลเอ ไปเปอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

(คดีกลุ่ม) ยูนิต 4707 ชั้น 47 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ 1

ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

โทรศัพท์: 02 686 8590

Email: [email protected]

 
Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

22 มิถุนายน 2563 : กรุ๊ปลีสโชว์กระแสเงินสดแข็งแกร่ง ชำระหุ้นกู้แปลงสภาพเต็มจำนวนก่อนกำหนด ไร้ปัญหาผลกระทบ Covid-19 พร้อมเร่งเครื่องขยายธุรกิจ

กรุ๊ปลีสโชว์กระแสเงินสดแข็งแกร่ง ชำระหุ้นกู้แปลงสภาพเต็มจำนวนก่อนกำหนด ไร้ปัญหาผลกระทบ Covid-19 พร้อมเร่งเครื่องขยายธุรกิจ

22 Jun 2020

บริษัท กรุ๊ปลีส จัด (มหาชน) โชว์ความแข็งแกร่งของกระแสเงินสดในมือกว่า 3.2 พันล้านบาท ชำระหุ้นกู้แปลงสภาพให้กับบริษัท Creation Investment มูลค่ากว่า 700 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยครบเต็มจำนวนก่อนกำหนด ยันไร้ปัญหาผลกระทบ Covid-19  พร้อมเร่งเครื่องขยายธุรกิจทั้งไทยและตปท. ส่งบริษัทในเครือ “ธนบรรณ” ลุยตลาดสินเชื่อจำนำเล่ม คาดตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายอาลัน ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท Creation Investment ซึ่งถือหุ้นกู้แปลงสภาพของ GL มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืน เป็นการทยอยชำระเป็นงวด แทนที่จะชำระหมดครั้งเดียว เพื่อให้บริษัทเกิดความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 และกำหนดครบในเดือนกันยายน 2563 นี้ ทางบริษัทมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า บริษัทได้ดำเนินการชำระหุ้นกู้แปลงสภาพครบเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ยให้กับ Creation Investment เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา โดยในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกมีความผันผวน และไม่แน่นอน บริษัทมีความพยายามอย่างสูงในการที่จะดำเนินงานด้วยความรัดกุมและมีประสิทธิภาพ และนั่นส่งผลให้เรายังคงมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจ และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไปได้ด้วยดี พร้อมทั้งสามารถชำระหุ้นกู้แปลงสภาพได้ครบก่อนกำหนด”

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับบริษัท เนื่องจากมีสถานการณ์เกิดขึ้นมากมาย มาจนถึงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งเราใช้เวลาทั้งหมดในการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทจากฐานราก ทุกเหตุการณ์บังคับให้เราต้องมีระเบียบวินัยมากขึ้น และต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่การระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แต่ กรุ๊ปลีสยังคงสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่มีการปลดหรือเลิกจ้างพนักงาน ประกอบกับ การบริหาร การจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการปรับโครงสร้างธุรกิจทำให้กรุ๊ปลีสอยู่ในสถานะที่ดี และแข็งแกร่ง ในวันนี้เรามีความพร้อมที่จะขยายฐานธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน บริษัท ธนบรรณ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกรุ๊ปลีสก็ได้บุกตลาดสินเชื่อจำนำเล่ม จัดโครงการ “รถแลกเงิน” ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มต่างๆ มากยิ่งขึ้น สำหรับลูกค้าที่ต้องการเงินด่วนเพื่อนำมาใช้เสริมสภาพคล่องในสภาวการณ์เช่นนี้”

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

18 พฤษภาคม 2563 : กรุ๊ปลีส เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ธุรกิจหลักยังคงทำกำไรต่อเนื่อง โชว์กระแสเงินสดยังแข็งแกร่ง พร้อมเร่งเครื่องขยายธุรกิจทั้งไทยและตปท.

กรุ๊ปลีส เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ธุรกิจหลักยังคงทำกำไรต่อเนื่อง โชว์กระแสเงินสดยังแข็งแกร่ง พร้อมเร่งเครื่องขยายธุรกิจทั้งไทยและตปท.

18 May 2020

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2563 โดยธุรกิจหลักยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โชว์กระแสเงินสดกว่า 3.2 พันล้านบาทเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจในขณะที่สภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว และไม่มีทิศทางชัดเจน พร้อมเร่งเครื่องเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในและตปท.

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากที่เราใช้เวลาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทจากฐานราก ในปีที่แล้วเราเริ่มมุ่งความสนใจไปที่การสร้างความเติบโตเพื่อไตรมาสนี้ ในขณะที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน แต่เรามีเงินสดกว่า 3.2 พันล้านเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจในช่วงเวลานี้ และเราสามารถเลือกที่จะลงทุนกับลูกค้าที่ดีได้ทุกที่ทุกเวลา บริษัทฯ พยายามสร้างผลประกอบการที่ดีให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คำนึงถึงส่วนแบ่งทางการตลาดที่ดีและคัดเลือกลูกค้าเพื่อรักษารากฐานทางธุรกิจไว้ นอกจากนี้บริษัทยังมีการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยการประกอบธุรกิจของเรายังคงมีกำไร มีปริมาณเงินสดจำนวนมาก และเราจะพยายามสร้างผลประกอบการที่ดีในอนาคตอันใกล้นี้”

นายอาลัน ฌอง ปาสคาล ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปัจจุบันธุรกิจหลักในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราร่วมงานกับผู้จัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นกว่า 17 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงานของเรา ในระยะเริ่มต้นของวิกฤตในเดือนมีนาคม บริษัทฯ ได้เปลี่ยนนโยบายการอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อในไทย ส่งผลให้เรายังรักษาคุณภาพของลูกหนี้ได้แม้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจเลวร้ายยิ่งขึ้น หากเทียบ ปีต่อปี และไตรมาสต่อไตรมาส รายจ่ายในการประกอบการของเรายังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เราอยู่รอดได้ท่ามกลางเศรษฐกิจอันสั่นคลอนนี้ โดยธุรกิจสินเชื่อที่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกันนั้น บริษัทได้ดำเนินมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งมีผลดีต่อเราเนื่องจากจำนวนสัญญาเพิ่มขึ้น 73% ต่อสาขา ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อสาขาลดลง

สำหรับธุรกิจนอกประเทศไทย เรามุ่งความสนใจไปธุรกิจการให้สินเชื่อรายย่อยซึ่งยังคงเติบโตและผลประกอบการดี – รายได้จาก group loan ซึ่งเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย การตั้งสำรองสำหรับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ การเติบโตของผลประกอบการของเราจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรสูงขึ้นในอนาคต

โดยการที่บริษัทฯ ขาดทุน 115.42 ล้านในไตรมาส 1 ของปี 2563 นี้ หลัก ๆ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพิเศษ แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายจำนวน 28 ล้านบาท การตั้งสำรองพิเศษสำหรับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 จำนวน 82 ล้านบาท และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 53 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายพิเศษทั้ง 3 รายการนี้รวมแล้วมูลค่ามากกว่า 163 ล้านบาท ซึ่งหากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษทั้งสามรายการนี้แล้ว ผลประกอบการของเราจะมีกำไรในไตรมาสนี้”

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

17 เมษายน 2563 : GL และ Creation บรรลุข้อตกลงในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนหุ้นกู้แปลงสภาพ คาดช่วยให้บริษัทฯ ฝ่าสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ไปได้ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

GL และ Creation บรรลุข้อตกลงในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนหุ้นกู้แปลงสภาพ คาดช่วยให้บริษัทฯ ฝ่าสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ไปได้ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

17 Apr 2020

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท Creation Investment ซึ่งถือหุ้นกู้แปลงสภาพของ GL มูลค่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ และครบกำหนดเมื่อ 30 มีนาคม 2563 ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืน เป็นการทยอยชำระเป็นงวดๆ แทนที่จะชำระหมดครั้งเดียว ส่งผลให้ GL มีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการกระแสเงินสดในสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 มากขึ้น นอกจากสถานการณ์โรคระบาดนี้จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมและการประกอบธุรกิจของ GL แล้ว ยังมีผลทำให้บรรดาการพิจารณาและการตัดสินคดีทั้งในสิงคโปร์และประเทศไทย ถูกเลื่อน และล่าช้าออกไปด้วย รวมถึงคดีความที่ GL ได้รับชัยชนะแล้ว อย่างไรก็ตาม GL ยังคงคาดว่าจะมีผลการตัดสินคดีต่าง ๆ ระหว่างปีนี้เกิดขึ้น

ในข้อตกลงนี้ GL และ Creation ตกลงให้ GL ทยอยชำระเงินคืน โดยชำระคืนเงินต้นจำนวน 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมดอกเบี้ยค้างจ่ายตามเงื่อนไขเดิมของหุ้นกู้แปลงสภาพ ในวันที่ 14 เมษายน 2563 นอกจากนั้น GL จะชำระคืนเงินต้นจำนวน 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน เริ่มชำระตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทั้งนี้จะชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน 2563 โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 7 ต่อปี และกำหนดจ่ายพร้อมกับเงินต้นงวดสุดท้ายในเดือนกันยายน 2563

ในภาวะที่ไม่สามารถคาดการณ์ผลกระทบของสถานการณ์การระบาดCovid-19 ต่อเศรษฐกิจโลกได้นั้น GL พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจเต็มรูปแบบตามเดิมได้ ในขณะที่ยังคงปฏิบัติตามคำสั่ง lockdown ในหลายประเทศที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ GL ยังคงการจ้างงานพนักงานทั้งหมดของบริษัทตามเดิม ไม่มีการเลิกจ้าง หรือ ลดพนักงานแต่อย่างใด ด้วยการมุ่งเน้นในจัดการบริหาร จัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและการลดขนาดธุรกิจลง ประกอบกับความยืดหยุ่นภายใต้สัญญาที่ Creation มอบให้ จะทำให้สถานการณ์ของ GL ดีขึ้น มีความแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับผลกระทบของ Covid-19 หากเศรษฐกิจตกต่ำ

ด้วยการต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ด้วยความยากลำบากมาโดยตลอด 2 ปีนี้ ทำให้ GL ต้องฝึกฝน จดจ่ออยู่กับเป้าหมายและสามารถปรับตัวได้ภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา บทเรียนนี้ทำให้ GL

สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์การระบาดของ Covid-19ในปัจจุบันนี้ได้ และยังคงพยายามสู้ต่อไปอย่างเต็มที่ เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด และเจริญเติบโตต่อไป

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

23 มีนาคม 2563 : GL บอกเลิกสัญญาหุ้นกู้แปลงสภาพของ JTA จำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ การจ่ายเงินคืนให้อยู่ในการพิจารณาของศาล

GL บอกเลิกสัญญาหุ้นกู้แปลงสภาพของ JTA จำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ การจ่ายเงินคืนให้อยู่ในการพิจารณาของศาล

23 Mar 2020

กรุ๊ปลีส (GL) ได้แจ้งต่อ JTA เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 บอกเลิกสัญญาหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยสาเหตุที่ JTA ไม่ได้ทำการเยียวยาความเสียหายใด ๆ ทั้ง ๆ ที่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 GL ได้ทำหนังสือแจ้งต่อ JTA ว่าได้ทำผิดสัญญาการลงทุนในหุ้นกู้ดังกล่าว ด้วยเจตนาไม่สุจริต มีการกระทำหลายอย่างอันเป็นการขัดขวางการใช้เงินทุนและรบกวนการประกอบกิจการของ GL มาโดยตลอด

ในขณะเดียวกัน JTA เองก็ได้อ้างว่าหุ้นกู้แปลงสภาพนั้นเป็นโมฆะแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีภาระหน้าที่ใด ๆตามสัญญาลงทุนระหว่าง JTA และ GL แล้ว หมายรวมถึงเรื่องกำหนดการชำระเงินด้วย กรณีดังกล่าวยังเป็นข้อพิพาทในชั้นศาล  โดย GL ถือว่าได้บอกเลิกสัญญาไปแล้วในขณะที่ JTA เห็นว่าหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวเป็นโมฆะ ดังนั้นภาระหน้าที่ของ GL ต่อ JTA จึงยังไม่มีความชัดเจนและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลไทย

GL ยืนยันชัดเจนว่า บริษัทฯ มีความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย แต่ด้วยการกระทำของ JTA ที่ได้กล่าวมาแล้ว และ ภายใต้กฎหมายไทย การจ่ายเงินใด ๆ ของ GL ให้แก่ JTA จะเป็นการชำระหนี้ที่ไม่มีมูล และ GL เองก็ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่ต้องชำระแน่นอนได้ ดังนั้นจึงต้องรอคำวินิจฉัยชี้ขาดจากศาล

ที่ผ่านมา JTA ได้ยื่นคำร้องต่อศาลประเทศไทยในการขอฟื้นฟูกิจการของ GL โดยศาลได้ยกคำร้องแล้วหลายครั้ง และล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ในคคีแพ่ง JTA ก็ถูกศาลสั่งให้จ่ายค่าเสียหายให้แก่ GLเป็นจำนวน 685.5 ล้านบาท เนื่องจากศาลเห็นว่า JTA มีเจตนาไม่สุจริตในการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการทำให้ GL ได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ยังมีคดีในประเทศสิงคโปร์ ที่ JTA กล่าวหาว่า GL มีเจตนาทุจริตทำการตกแต่งงบการเงินทำให้มีผลประกอบการเกินจริง ในที่สุดศาลสูงของสิงคโปร์ได้ยกฟ้องข้อกล่าวหาของ JTA ในทุกประเด็นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

การกระทำของ JTA นับเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตสร้างความเสียหายเป็นอันมากทั้งต่อ GL บริษัทย่อย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการเงินและชื่อเสียง และความเสียหายเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

GL จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายจาก JTA อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดย GL จะไม่เพิกเฉย และจะขอใช้สิทธิต่าง ๆ เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียของ GL

อย่างไรก็ตาม GL ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ JTA ในการร่วมกันหาทางออกในกรณีดังกล่าว แต่ถึงกระนั้น GL จะไม่ยินยอมให้ JTA ใช้วิธีทางกฎหมายโดยไม่สุจริตนี้ต่อไป

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

06 มีนาคม 2563 : ศาลแพ่งไทยตัดสิน JTA ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต พิพากษาให้ JTA ชดใช้เงินให้แก่ GL จำนวน 685.5 ล้านบาท

ศาลแพ่งไทยตัดสิน JTA ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต พิพากษาให้ JTA ชดใช้เงินให้แก่ GL จำนวน 685.5 ล้านบาท

06 Mar 2020

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 ศาลแพ่งของไทยได้ตัดสินว่าการที่ JTA ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ GL นั้นเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต จึงพิพากษาให้ JTA ชดใช้เงินค่าเสียหายและค่าทนายความแก่ GL ณ วันที่ 5 มีนาคม 2563 รวมเป็นเงินจำนวน 685,500,000 บาท

ตามที่ GL ยื่นฟ้อง JTA เป็นคดีแพ่งเนื่องจาก JTA พยายามที่จะทำให้ GL เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ทั้ง ๆ ที่ เห็นได้ชัดว่า GL ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมายที่จะต้องฟื้นฟูกิจการ และเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 ศาลล้มละลายกลางพิพากษายกฟ้องคดีฟื้นฟูกิจการดังกล่าวเป็นครั้งที่สอง ซึ่งศาลใช้หลักในการพิจารณายกคำร้อง 3 ประการ ประกอบด้วย จำนวนหนี้ที่ GL ต้องชำระแก่ JTA ทรัพย์สินของ GL เมื่อเปรียบเทียบกับหนี้สินที่มีอยู่ และความสามารถของ GL ในการดำเนินธุรกิจ

เมื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ทั้งสามประการดังกล่าวแล้ว ศาลจึงตัดสินว่าจำนวนหนี้ที่ GL ต้องชำระแก่ JTA เป็นหนี้ที่ไม่มีความแน่นอน เนื่องจากยังมีคดีค้างพิจารณาอยู่ในศาล และ GL มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน จึงไม่ใช่ผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแต่อย่างใด ประกอบกับ GL ยังสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ ดังนั้น จึงพิพากษายกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ

จากการที่ศาลแพ่งเห็นว่าการกระทำของ JTA เป็นการกระทำไปโดยมีเจตนาไม่สุจริต และสร้างความเสียหายให้แก่ GL อย่างมาก ทั้งจากคำตัดสินของศาลสูงแห่งประเทศสิงคโปร์เมื่อเดือนที่แล้วที่ศาลพิพากษาให้กรุ๊ปลีสชนะคดี และคำตัดสินในวันนี้ จะช่วยสนับสนุนข้อโต้แย้งของเราในการต่อสู้เรียกร้องค่าเสียหายสำหรับความเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากการกระทำของ JTA และหยุด JTA ในการใช้สิทธิดำเนินคดีโดยไม่สุจริต