Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

02 ตุลาคม 2561 : แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการได้มาซึ่งใบอนุญาตที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับประกอบธุรกิจการประมูลและการค้าโบราณวัตถุโดยบริษัท ธนบรรณ จำกัด

แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการได้มาซึ่งใบอนุญาตที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับประกอบธุรกิจการประมูลและการค้าโบราณวัตถุโดยบริษัท ธนบรรณ จำกัด

02 Oct 2018

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ขอประกาศให้ทราบว่าเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา บริษัท ธนบรรณ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินกิจการด้านการเงินในประเทศไทยได้รับใบอนุญาตที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับประกอบธุรกิจการประมูลและการค้าโบราณวัตถุ

โดยใบอนุญาตนั้นสำหรับประกอบธุรกิจการประมูลในจังหวัดนครราชสีมาซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย อย่างไรก็ตามบริษัทธนบรรณได้ยื่นขอใบอนุญาตสำหรับประกอบธุรกิจการประมูลและการค้าโบราณวัตถุในกรุงเทพมหานครแล้ว

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 บริษัทกรุ๊ปลีสประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ซึ่งในประเทศไทยบริษัทเตรียมเพิ่มประสิทธิภาพรูปแบบธุรกิจจากการเป็น “ดิจิทัลไฟแนนซ์” ให้เป็น “ไลฟ์ไซเคิลไฟแนนซ์” พร้อมกันนั้นบริษัทได้รวมบริการที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่นการซื้อสินทรัพย์รถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าสู่ธุรกิจปัจจุบัน บริษัทเห็นว่าธุรกิจการประมูลเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจ “ไลฟ์ไซเคิลไฟแนนซ์” และจากการที่บริษัทธนบรรณได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการประมูลนั้นจะเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไป

 

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

18 กันยายน 2561 : บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรูปแบบงานดิจิทัลไฟแนนซ์

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรูปแบบงานดิจิทัลไฟแนนซ์

18 Sep 2018

กรุ๊ปลีส เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้วย 5 กลยุทธ์หลัก พร้อมเตรียมยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพโมเดล ดิจิทัล ไฟแนนซ์ สู่ธุรกิจทางการเงินแบบครบวงจร และเพิ่มประสิทธิภาพจาก บริษัทลีสซิ่ง เป็น บริษัท มัลติไฟแนนซ์ โดยคาดว่ารายได้ของบริษัทฯก่อนหักภาษีจะเติบโตถึง 164% ภายในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 0.7 พันล้านบาท ในปี 2560 เป็น 1.8 พันล้านบาทในปี 2565

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การจัดงานแถลงข่าวในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การคาดการณ์ทิศทางด้านการเงินตามที่บริษัทต้องการ ในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่ยังรวมถึงพันธกิจ วิสัยทัศน์ และคุณค่าที่บริษัทคาดหวังสำหรับบริษัท ทั้งนี้ พันธกิจของกรุ๊ปลีส คือ การช่วยให้ลูกค้าของเราเติบโตและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น ด้วยการจัดหาโซลูชั่นทางการเงินที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมกับคนในระดับท้องถิ่น บริษัทจะบรรลุวัตถุประสงค์นี้ได้ด้วยการเป็น “GLOCAL finance company” (คือการเป็นบริษัทในลักษณะ Global and Local ในเวลาเดียวกัน) บริษัทจะใช้การเข้าถึงในระดับสากล เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการสนับสนุนลูกค้าส่วนท้องถิ่น

จากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทได้เป็นพันธมิตรกับหลายบริษัท เช่น ฮอนด้า คุโบต้า ทรูมันนี่ และบริษัทชั้นนำอื่น ๆ บริษัทจะนำทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก ส่งมอบให้แก่ประชากรส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นกำลังสำคัญให้พวกเขาในการทำความฝันให้เป็นจริงและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น บริษัทได้สร้างระบบเครือข่าย POS ที่มีต้นทุนต่ำและมีประสิทธิภาพ เพื่อบรรลุพันธกิจของทางบริษัท ซึ่งการทำให้พันธกิจและวิสัยทัศน์สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีได้ก็ต่อเมื่อบริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทเตรียมจะเพิ่มประสิทธิภาพจากการเป็น “ดิจิทัลไฟแนนซ์” ให้เป็น “ไลฟ์ไซเคิลไฟแนนซ์” และจาก “บริษัทลิสซิ่ง” เป็น “บริษัทมัลติไฟแนนซ์”

“เป้าหมายเหล่านี้เป็นความพยายามอันต่อเนื่องถึงปัจจุบันประกอบกับความพยายามในก้าวต่อๆไป การดำเนินงานเหล่านี้จะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญและจำเป็นสำหรับบริษัทในทางสร้างความต่อเนื่องให้แก่พันธกิจของเรา พอร์ตโฟลิโอเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของรายได้และผลกำไรสำหรับบริษัทและอุตสาหกรรม บริษัทคาดหวังในระดับพื้นฐาน (ใน 3 กรณี) ว่าพอร์ตโฟลิโอรวมของบริษัทจะเติบโตจากประมาณการที่ 7.6 พันล้านบาทเป็น 12.1 พันล้านบาท ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 65% อย่างไรก็ตาม รายได้จะเติบโตในระดับที่เร็วกว่าขนาดพอร์ตโฟลิโอ เนื่องจากมีการเติบโตของรายได้ที่ไม่มีฐานอยู่ในพอร์ตโฟลิโอ เช่น การประมูลและบริการด้านธุรกิจ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์การเติบโตของรายได้ในปี 2560 จาก 2.7 พันล้านบาท (ไม่รวมสินเชื่อที่อยู่ระหว่างข้อพิพาท) เป็น 4.6 พันล้านบาทในปี 2565 เพิ่มขึ้น 74% ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา” นายทัตซึยะ กล่าว

นายมุเนะโอะ ทาชิโร่ กรรมการ และ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายและตลาด รวมทั้งได้สร้างรากฐานที่มั่นคงในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทจึงเพิ่มผลกำไรได้เร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ ตามที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นในการขยายงาน ขณะนี้บริษัทสามารถรับรู้ถึงผลประโยชน์จากรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการขยายงานด้านต่าง ๆ โดยกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT – ไม่รวมเงินสำรองพิเศษและ CCF) บริษัทคาดหวังที่จะเติบโตโดยประมาณการณ์จาก 0.9 พันล้านบาทเป็น 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 103% ส่วนสำคัญที่สุดคือกำไรก่อนหักภาษี (รวมกำไรจากการลงทุนใน CCF โดยไม่รวมรายการพิเศษ) บริษัทคาดหวังการเติบโตอยู่ที่ 164% ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 0.7 พันล้านบาทในปี 2560 เป็น 1.8 พันล้านบาท ในปี 2565

“กรุ๊ปลีส เรามีความมุ่งมั่นในการบรรลุพันธกิจเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกค้า เราได้ทบทวนและสร้างแผนงานเพื่อให้พันธกิจของเราบรรลุเป้าหมาย พร้อมกับสร้างความมั่นใจในความสำเร็จด้านการเงินของเรา เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินพันธกิจอย่างต่อเนื่องและยังคงขยายยังผู้ที่ต้องการได้ต่อไป ซึ่งทางฝ่ายบริหารเรามีความคาดหวังในเชิงบวกและมีความมั่นใจต่อธุรกิจในอนาคตของทางบริษัท” นายมุเนะโอะ กล่าวสรุป

  แผนยุทธศาสตร์ 5ปี

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

15 สิงหาคม 2561 : กรุ๊ปลีส เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2018 การแก้ไขงบการเงินปี 2017 และกำไรโตติดต่อกันสามไตรมาส

กรุ๊ปลีส เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2018 การแก้ไขงบการเงินปี 2017 และกำไรโตติดต่อกันสามไตรมาส

15 Aug 2018

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เผยรายได้ไตรมาสที่ 2/2561 อยู่ที่ 729.01 ล้านบาท มีกำไร 125.98 ล้านบาท พร้อมกับย้ำกำไรยังเติบโตต่อเนื่องติดต่อกันสามไตรมาส หลังจากการตั้งสำรองในไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ในขณะที่กำไรแต่ละไตรมาสยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

นาย อาลัน ฌอง ปาสคาล ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมีกำไรสุทธิ 125.98 ล้านบาท ในไตรมาสที่สองของปี 2561 ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรได้ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สาม ทั้งนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น 25.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับรายได้ของไตรมาสแรก ในขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการบริการและการบริหารลดลง 14.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ซึ่งส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 (จากเดิม 106.53 ล้านบาทเป็น 125.98 ล้านบาท) และกำไรจากการปฎิบัติงานโตร้อยละ 27 จากไตรมาสที่แล้ว (จากเดิม 106.41 ล้านบาท เป็น 134.69 ล้านบาท)

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทได้แก้ไขงบการเงินปี 2017 (ปี 2560) ตามหนังสือของ ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากการตั้งสำรองในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 ส่งผลให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2017 และรายได้สุทธิดีขึ้นจากเดิม บริษัทพร้อมให้ความร่วมมือกับ ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความกระจ่าง โปร่งใส และเพื่อคงไว้เพื่อธรรมภิบาลที่ดี”

“บริษัทได้เคยให้คำมั่นไว้ว่า ในปี 2018 บริษัทจะพยายามเพิ่มผลกำไรและเสริมความแข็งแกร่งในด้านการดำเนินงานของบริษัท เพื่อความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ผ่านมานั้น บริษัทได้ดำเนินการไปตามทิศทางที่ตั้งใจไว้ และผลกำไรของบริษัทก็เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าขนาดของธุรกิจจะไม่ได้เติบโตมากขึ้นก็ตาม บริษัทขอเรียนว่า บริษัทจะพยายามดำเนินการให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง โดยบริษัทได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพของกลุ่มลูกค้าและพัฒนาขั้นตอนการดำเนินงานของบริษัท เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อต่อยอดความสำเร็จในปีต่อๆไป จะเห็นได้จากในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรจากการปฎิบัติงานเพิ่มขึ้นจากเดิม 106.41 ล้านบาท เป็น 134.69 ล้านบาท หรือโตขึ้นร้อยละ 27 ในไตรมาสเดียว”

“ธุรกิจในประเทศต่างๆยังคงสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่สองนี้ โดยเฉพาะธุรกิจในพม่าและไทยซึ่งสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทเป็นลำดับต้นๆ บริษัทวางแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ในพม่าเนื่องจาก NPL ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ในประเทศอื่นๆนั้นบริษัทจะเน้นสร้างฐานลูกค้าที่มีคุณภาพให้เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากปัจจัยด้านการแข่งขันและหนี้ครัวเรือนที่สูงเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ธุรกิจในลาวนั้น บริษัทคาดว่าจะคงระดับการเติบโตไว้ ส่วนของธุรกิจที่กัมพูชานั้น บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจแบบ conservative เนื่องจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจมหภาค ในขณะที่บริษัทคาดหวังการเติบโตเล็กน้อยสำหรับธุรกิจในประเทศไทย เนื่องจากมีการพัฒนาคุณภาพของฐานลูกค้า แต่บริษัทจะเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และที่อินโดนีเซียนั้นมีการเติบโตของธุรกิจที่คล้ายคลึงกับการให้สินเชื่อรายย่อยที่พม่า อย่างไรก็ดี ในการขยายธุรกิจในอนาคตนี้ บริษัทจะดำเนินการอย่างรอบคอบและรอคอยจังหวะเวลาที่เหมาะสมก่อนเพิ่มการลงทุนในแต่ละประเทศต่อไป”

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

24 เมษายน 2561 : บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้องคดีอันเกี่ยวเนื่องกับคดีฟื้นฟูกิจการของบริษัท

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้องคดีอันเกี่ยวเนื่องกับคดีฟื้นฟูกิจการของบริษัท

24 Apr 2018

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) แจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ โดยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้อง (1) J Trust Asia Pte. Ltd. (2) นายโนบุโยชิ ฟุจิซาวะ กรรมการของ J Trust Asia Pte. Ltd. (3) นายชิเกะโยชิ อาซาโนะ กรรมการของ J Trust Asia Pte. Ltd. และ (4) ผู้ให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่ J Trust Asia Pte. Ltd. เกี่ยวกับข้อกฎหมายในการขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท รวม 4 คน เป็นคดีอาญาต่อศาลล้มละลายกลางในฐานความผิดร่วมกันยื่นคำร้องขอต่อศาลให้มีการฟื้นฟูกิจการอันเป็นเท็จในสาระสำคัญ รวมถึงได้อ้างว่าบริษัทฯ ต้องด้วยข้อสันนิษฐานที่จะสามารถยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการบริษัทฯ ซึ่งเป็นเท็จ ทำให้บริษัทฯ เสื่อมเสียชื่อเสียง ขาดความน่าเชื่อถือในกลุ่มนักลงทุน และส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท ศาลล้มละลายกลางได้รับฟ้องและกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 มิถุนายน 2561 เวลา 9.00 น.

 

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

14 มีนาคม 2561 : แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินคดีของบริษัท เจทรัสต์ เอเชีย พีทีอี จำกัด (J Trust Asia Pte. Ltd.) ต่อ Group Lease Holdings Pte. Ltd.

แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินคดีของบริษัท เจทรัสต์ เอเชีย พีทีอี จำกัด (J Trust Asia Pte. Ltd.) ต่อ Group Lease Holdings Pte. Ltd.

14 Mar 2018

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอเรียนชี้แจงถึงสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทฯ และการดำเนินคดีของ บริษัท เจทรัสต์ เอเชีย พีทีอี จำกัด (J Trust Asia Pte. Ltd.) (“JTA”) ต่อ Group Lease Holdings Pte. Ltd. (“GLH”) ดังนี้

บริษัทฯ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดของการฟ้องร้องคดีของ JTA เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 เกี่ยวกับกรณีที่ศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ได้มีคำสั่งยกเลิกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวต่อ GLH ไปแล้วนั้น

ทั้งนี้ JTA ไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ ดังนั้น JTA จึงต้องยื่นคำร้องเพื่อขออนุญาตยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาล และในขณะเดียวกันก็ได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวต่อ GLH ระหว่างคดีอยู่ในช่วงระยะเวลาการขอยื่นอุทธรณ์อีกด้วย ต่อมาในวันที่ 5 มีนาคม 2561 ศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ได้อนุญาตให้ JTA ยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ อย่างไรก็ตามศาลแห่งประเทศสิงคโปร์มีคำสั่งไม่รับคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของ JTA ระหว่างคดีอยู่ในช่วงระยะเวลาการขอยื่นอุทธรณ์

ต่อมา JTA ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์แห่งประเทศสิงคโปร์ หลังจากนั้น JTA ได้ยื่นขอให้มีพิจารณาอุทธรณ์เป็นกรณีเร่งด่วน และยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวระหว่างคดีอยู่ระหว่างการขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแห่งประเทศสิงคโปร์เป็นครั้งที่สอง

ในวันที่ 12 มีนาคม 2561 ศาลอุทธรณ์แห่งประเทศสิงคโปร์ได้อนุญาตให้มีการพิจารณาอุทธรณ์เป็นกรณีเร่งด่วนได้ อย่างไรก็ดี ศาลอุทธรณ์แห่งประเทศสิงคโปร์ยังไม่ได้กำหนดวันไต่สวนสำหรับการยื่นอุทธรณ์เป็นกรณีเร่งด่วนนี้แต่อย่างใด

ในวันที่ 14 มีนาคม 2561 ศาลอุทธรณ์แห่งประเทศสิงคโปร์ได้มีคำสั่งยกคำร้องครั้งที่สองของ JTA ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวต่อ GLH ระหว่างดดีอยู่ในช่วงระยะเวลาอุทธรณ์ อีกทั้งยังมีคำสั่งให้ JTA ชดใช้ค่าเสียหายแก่ GLH เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 2,500 เหรียญสิงคโปร์อีกด้วย

 

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

27 กุมภาพันธ์ 2561 : ชี้แจงถึงกับคำกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง และข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการแจ้งข่าวของ J-Trust

ชี้แจงถึงกับคำกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง และข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการแจ้งข่าวของ J-Trust

27 Feb 2018

อ้างถึงการแจ้งข่าวเกี่ยวกับ “การรับทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (การแจ้งข่าวต่อเนื่อง)” เมื่อวันที่ 21 และ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ของ JTRUST ซึ่งมีความไม่ถูกต้อง เป็นเท็จ และก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“GL”) ขอชี้แจงดังนี้

สถานการณ์ในประเทศไทย

  • J Trust กล่าวอ้างว่า บริษัท เจทรัสต์ เอเชีย พีทีอี จำกัด (J Trust Asia Pte. Ltd.) (“JTA”) ได้ยื่นฟ้อง GL กรรมการที่เกี่ยวข้อง และนายมิทซึจิ โคโนชิตะ (Mr. Mitsuji Konoshita) เป็นคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย และมีการนำส่งหมายเรียบร้อยแล้ว

    ข้อเท็จจริงคือจะยังไม่มีการดำเนินคดีแพ่งในชั้นศาลในเร็วๆนี้ เนื่องจากภายหลังจากที่ JTA ยื่นคำฟ้องเป็นคดีแพ่ง JTA ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลในทันที ซึ่งตามผลของกฎหมายล้มละลายนั้น จะต้องมีการ ระงับกระบวนการพิจารณาคดีแพ่ง ไว้ชั่วคราวจนกว่าคดีฟื้นฟูกิจการจะมีผลอย่างใดอย่างหนึ่งภายใต้กฎหมายล้มละลาย

    ดังนั้น JTRUST และ JTA ซึ่งทราบดีและตั้งใจทำให้ผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่น เกิดความเข้าใจผิด ว่าจะมีการดำเนินคดีแพ่ง เนื่องจากขณะที่ยื่นฟ้องคดีแพ่งนั้น JTRUST และ JTA ทราบดีอยู่แล้วว่าจะไม่มีการดำเนินคดีในชั้นศาลจนกว่าจะมีการยกคำร้อง หรือ คำตัดสินในคดีฟื้นฟูกิจการ

    JTRUST และ JTA ตั้งใจที่จะไม่รายงานและเปิดเผยข้อมูลต่อผู้มีส่วนได้เสีย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่น ว่า หากมีการยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม จะต้องมีการพิสูจน์ต่อไปในชั้นศาลว่าการที่ JTA บอกเลิกสัญญาการลงทุน (Investment Agreement) ดังกล่าวนั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีระยะเวลาในการพิจารณาประมาณ 3-5 ปี ก่อนที่ศาลแพ่งจะมีคำตัดสินในคดีดังกล่าว ซึ่งในระหว่างนี้ GL ไม่มีหน้าที่ชำระดอกเบี้ย หรือ ไถ่ถอน หรือชำคืนค่าหุ้นกู้แปลงสภาพแต่อย่างใด


  • JTRUST กล่าวในการแจ้งข่าวว่า “ภายใต้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติล้มละลายของประเทศไทย GL ไม่สามารถจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สิน ให้เช่า ชำระหนี้สิน สร้างหนี้สิน หรือกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดภาระหนี้สินของบริษัท เว้นเสียแต่เป็นการกระทำที่จำเป็นเพื่อให้การดำเนินการค้าสามารถดำเนินไปได้”

    JTRUST และ JTA ทราบดีว่าตนได้ละเว้นการ รายงานและเปิดเผยข้อมูลต่อผู้มีส่วนได้เสีย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่น ว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 ศาลล้มละลายกลางได้อนุญาตให้ GL สามารถชำระค่าดอกเบี้ยต่อเจ้าหนี้ได้ เช่น หุ้นกู้มีประกันบางส่วน และหุ้นกู้แปลงสภาพ ดังนั้น GL สามารถดำเนินการประกอบธุรกิจโดยปราศจากความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้ทุกราย

    JTRUST ยังได้กล่าวข้อความอันเป็นเท็จในการแจ้งข่าวว่า “อย่างไรก็ดี GL ยังไม่ได้ชำระหนี้ใดๆ ให้กับ JTA ตามสัญญาการลงทุน (Investment Agreement) ในหุ้นกู้แปลงสถาพแต่อย่างใด” โดยมีข้อเท็จจริงมีดังนี้ (1) GL ชำระดอกเบี้ยที่เกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมดที่ครบกำหนดให้แก่ JTA แล้ว (2) JTA ยกเลิกสัญญาการลงทุนและหุ้นกู้แปลงสภาพโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ GL ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยที่เหลือของหุ้นกู้แปลงสภาพภายใต้ข้อกำหนดของหุ้นกู้แปลงสภาพได้เนื่องจากยังมีข้อพิพาทระหว่างกันอยู่ในชั้นศาล ซึ่งเป็นการฟ้องคดีโดย JTA เองและ (3) GL จะชำระหนี้ภายใต้ข้อกำหนดของหุ้นกู้ และหุ้นกู้แปลงสภาพให้กับผู้ถือหุ้นกู้ ตามที่ได้รับอนุญาตจากศาลล้มละลายกลาง ยกเว้นกรณีของ JTA ที่จะต้องรอจนกว่าจะมีคำตัดสินเรื่องที่ JTA ยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย GL เชื่อว่าอาจจะมีระยะเวลาในการพิจารณาประมาณ 3-5 ปี นับจากนี้


  • JTRUST และ JTA ได้กล่าวข้อความอันเป็นเท็จและก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ผู้มีส่วนได้เสีย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่นว่า “JTA ได้แจ้งความร้องทุกข์คดีอาญาต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษและกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อดำเนินคดีต่อ GL และ นาย มิทซึจิ โคโนชิตะ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง” โดยจงใจที่จะละเว้นการรายงานในข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

(i) JTA ได้รับแจ้งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่มีอำนาจทำการสอบสวน เนื่องจากการข้อกล่าวหาที่ว่ากระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และ

(ii) JTA ในฐานะที่เป็นบุคคลต่างด้าว ไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการแจ้งความร้องทุกข์คดีอาญา จากการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร เพื่อดำเนินคดีต่อเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรไทย

ขณะนี้ GL กำลังพิจารณาว่าจะดำเนินคดีต่อ JTRUST และ / หรือ ะกรรมการที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยเรื่องการแจ้งความเท็จ การกระทำความผิดทางอาญาและทางแพ่งอื่นๆ หรือไม่ รวมถึงการกระทำฝ่าฝืน พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และ กฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วยการทําคําเสนอซื้อหุ้นของกิจการอีกด้วย

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

26 มกราคม 2561 : ศาลสิงคโปร์ยกคำขอห้าม GLH ดำเนินธุรกิจตามปกติทันทีของ JTA และอนุญาตให้ GLH ดำเนินธุรกิจได้ปกติ

ศาลสิงคโปร์ยกคำขอห้าม GLH ดำเนินธุรกิจตามปกติทันทีของ JTA และอนุญาตให้ GLH ดำเนินธุรกิจได้ปกติ

26 Jan 2018

ในช่วงเดือนนี้ J Trust Asia (“JTA”) ได้ดำเนินการฟ้องคดีต่อบริษัทและบริษัทลูกของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“GL”) ทั้งในไทยและในสิงคโปร์ ซึ่งขณะนี้กระบวนการทางกฎหมายอยู่ในระหว่างช่วงเริ่มต้น โดยเบื้องต้นศาลได้มีคำสั่งอนุญาตชั่วคราวตามที่ JTA ยื่นคำขอแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยที่ GL ยังไม่มีโอกาสได้ยื่นคำให้การหรือคำโต้แย้งต่อศาล ทั้งนี้ ศาลยังไม่ได้มีคำวินิฉัยในเนื้อหาของข้อพิพาทแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีเมื่อ วันที่ 25 มกราคม 2561 เป็นครั้งแรกที่ศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ที่กระบวนการทางศาลได้เปิดโอกาสให้มีการรับฟังความทั้งสองฝ่ายก่อนการพิจารณาตัดสินคำร้องขอของ JTA ซึ่งได้ร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งห้าม GLH ดำเนินการขายทรัพย์สินและห้ามโอนเงินทุนระหว่างบริษัทย่อยของ GL ในทันที ทั้งนี้ GLH เป็นบริษัทลูกในประเทศสิงคโปร์และจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการจัดการการลงทุนของ GL และการซื้อขายทรัพย์สินและโอนเงินทุนระหว่างกันในบริษัทย่อยนั้น ถือได้ว่าเป็นธุรกิจปกติของ GLH ซึ่งภายหลังจากศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ได้รับฟังข้อโต้แย้งจากทั้งสองฝ่าย ศาลได้มีคำสั่งปฏิเสธคำร้องของ JTA ที่ขอต่อศาลไม่ให้ GLH ดำเนินธุรกิจตามปกติในทันทีดังกล่าว

ถึงแม้ว่านี่อาจจะเป็นข่าวดีเล็กน้อย แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ศาลได้พิจารณาคำร้องและโต้แย้งจากทั้งสองฝั่งและ GL ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการต่อสู้คดีต่อไป และหวังว่าครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกของชัยชนะในครั้งต่อๆไปของ GL.

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

13 ตุลาคม 2560 : น้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท กรุ๊ปสีส จำกัด (มหาชน)

น้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท กรุ๊ปสีส จำกัด (มหาชน)

13 Oct 2017

เวลาเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคตด้วยพระอาการสงบ พระองค์จะสถิตอยู่ในใจราษฎร์ตราบนิรันดร์ด้วยการน้อมนำคำสั่งสอนของพระองค์ท่านไปปรับใช้จริงในชีวิตประจำวันตามที่ท่านได้พระราชทานไว้ จากโครงการนับพันเพื่อดูแลราษฎรผู้ยากไร้ สนับสนุนการศึกษาและความรักในดนตรีแจ๊ส ท่านทรงอุทิศตลอดพระชนม์ชีพของท่านในการช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตของปวงชนชาวไทย

ข้าพเจ้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าจากการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์และจะขอตามแบบอย่างรอยเบื้องพระยุคลบาทด้วยทศพิธราชธรรมและหลักการทรงงาน

ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งแก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์และปวงชนชาวไทย

ข้าพระพุทธเจ้า นายโคโนชิตะ มิตซึจิ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

คณะกรรมการบริหาร และพนักงาน บริษัทกรุ๊ปลีส จำกัด(มหาชน)

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

05 ตุลาคม 2560 : พนักงานและลูกค้าบริษัท GL ร่วมมือกันทำดีเพื่อพ่อ

พนักงานและลูกค้าบริษัท GL ร่วมมือกันทำดีเพื่อพ่อ

05 Oct 2017

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ประกาศให้มีบริการรับ-ส่งฟรี ในวันงาน
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

‘พนักงานและลูกค้าบริษัท GL ร่วมมือกันทำดีเพื่อพ่อ’

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ บริษัท ธนบรรณ จำกัด ได้ประกาศให้มีบริการรถจักรยานยนต์ รับ-ส่งฟรีบริเวณวัดสเมียนนารี ซึ่งเป็นอีกสถานที่หนึ่งสำหรับจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางไปถวายดอกไม้จันทน์และถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช 

บริษัท กรุ๊ปลีสฯ ได้จัดทำโครงการ “ทำดีเพื่อพ่อ” โดยให้บริการรถจักรยานยนต์ รับ-ส่งฟรี แก่ประชาชนทั่วไปในวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2560 บริษัทฯได้ตั้งจุดบริการ รับ-ส่ง ทั้งหมด 3 จุด ได้แก่ ตลาดนัดบองมาร์เช่ ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ และเรือนจำกลางคลองเปรม และในวันดังกล่าวจะมีอาสาสมัครพร้อมรถจักรยานยนต์จำนวน 209 (สองร้อย ’เก้า’) คัน เป็นพนักงานของบริษัทฯ จำนวน 100 คน และจักรยานยนต์รับจ้างกว่า 100 คน ซึ่งเป็นลูกค้าของทางบริษัทฯ ที่มีความยินดีจะเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ อีกทั้งบริษัทฯ จะให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งแก่อาสาสมัครทุกท่าน

นาย มุเนะโอะ ทาชิโร่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทฯ กล่าวว่า “กิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัท พนักงานและกลุ่มลูกค้าที่จะได้ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อให้บริการแก่ประชาชน โดยจะมีพนักงานอาสาสมัครอีก 107 คน ที่จะคอยอำนวยความสะดวกและดูแลสถานที่ให้บริการแก่ประชาชน”

ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด รวมทั้งพันธมิตรผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์อีกด้วย กิจกรรมนี้จะเริ่มให้บริการ ตั้งแต่เวลา 7.30 – 18.00 น.

Categories
ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

06 กันยายน 2560 : BGMM ได้รับอนุญาตให้รับฝากเงิน เพิ่มแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำจากท้องถิ่น

BGMM ได้รับอนุญาตให้รับฝากเงิน เพิ่มแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำจากท้องถิ่น

06 Sep 2017

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ขอแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการได้รับอนุญาตให้รับฝากเงิน ดังต่อไปนี้

บริษัท BG Microfinance Myanmar Co.,Ltd.(“BGMM”) เป็นบริษัทย่อยของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจ ไมโครไฟแนนซ์ในประเทศเมียนมา ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเมียนมาให้สามารถที่จะให้บริการรับฝากเงินจากบุคคลธรรมดาได้แล้ว ภายหลังจากที่ได้เปิดดำเนินกิจการมาแล้ว 3 ปีและมีผลประกอบการกำไร 2 ปี ติดต่อกัน ซึ่ง BGMM เป็นบริษัทย่อยรายแรกที่ได้รับอนุญาตให้รับฝากเงิน โดยการอนุญาตนี้จะส่งผลให้ BGMM มีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำและอยู่ในรูปของสกุลเงินท้องถิ่น คือเงินจ๊าด อีกทั้งยังเป็นการลดความต้องการเงินทุนจากทางบริษัทลงอีกด้วย และยังส่งผลให้ BGMM สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถดึงดูดลูกค้าให้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างความสามารถในการเพิ่มรายได้ของบริษัทให้มากขึ้นในขณะที่ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของบริษัทลดลง

หลังจากที่ GL เข้ามาซื้อ BGMM ก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยภายในระยะเวลา 4 เดือน BGMM สามารถเพิ่มยอดสินเชื่อที่ ปล่อยกู้ได้มากกว่า 3 เท่าในแต่ละเดือน จาก 311 ล้านจ๊าดในเดือน กุมภาพันธ์ 2560 เป็น 1,134 ล้านจ๊าดในเดือน มิถุนายน 2560 ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อ (loan portfolio) โดยรวมของ BGMM เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า จาก 1,890 ล้ านจ๊าด เป็น 3,876 ล้านจ๊าด ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งโดยหลักเป็นผลมาจากความสามารถของ BGMM ในการดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามา ซึ่งจากเดิมที่มีเพียง 10,479 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เพิ่มเป็น 21,101 รายในเดือนมิถุนายน 2560 ดังนั้น ทั้ง BGMM และ GL จึงมุ่งหวังที่จะทำให้บริษัทเจริญเติบโตและช่วยเหลือชาวเมียนมาต่อไป